Generic selectors
Exact matches only
Search in title
Search in content
Post Type Selectors

เครื่องมือกันช่องว่างระหว่างฟัน

MU DENT faculty of dentistry

เครื่องมือกันช่องว่างระหว่างฟัน

รศ.ทพญ.ประภาศรี ริรัตนพงษ์

ภาควิชาทันตกรรมเด็ก

คืออะไร ?

ทำหน้าที่ : รักษาระยะห่างระหว่างฟันเอาไว้ไม่ให้ลดลงหรือหายไปเพื่อให้ฟันแท้ในตำแหน่งนั้นสามารถขึ้นได้ โดยมีทั้งที่ทำจากโลหะและอะคริลิก

 

ใส่เมื่อไหร่ ?

เมื่อมีการสูญเสียฟันน้ำนมก่อนวัยอันควร โดยทันตแพทย์จะพิจารณาให้ใส่เครื่องมือกันช่องว่างระหว่างฟัน

 

ถ้าไม่ใส่ ?

– ฟันล้มเอียงมาทางช่องว่างนั้น ทำให้ฟันแท้ขึ้นผิดตำแหน่ง
– ฟันซ้อนเกทำให้สูญเสียความสวยงาม
– มีนิสัยที่ผิดปกติ เช่น เอาลิ้นมาดุนช่องว่างที่เกิดขึ้น
– กระดูกเบ้าฟันหนาตัว มีผลให้ฟันแท้ที่อยู่ข้างใต้ขึ้นช้ากว่าปกติ

 

ชนิดของเครื่องมือกันช่องว่างระหว่างฟัน

สำหรับเด็กมี 2 ประเภท
1. แบบถอดได้ เครื่องมือคงสภาพชนิดที่ผู้ป่วยสามารถใส่และถอดมาทำความสะอาดได้เอง
2. แบบติดแน่น เครื่องมือคงสภาพชนิดติดแน่น ผู้ป่วยไม่สามารถถอดเครื่องมือออกเองได้

 

มีประโยชน์อย่างไร ?

รักษาช่องว่าง ช่วยให้ฟันแท้ขึ้นได้และอยู่ในตำแหน่งที่เหมาะสม ป้องกันปัญหาฟันเกหรือฟันขึ้นผิดที่ได้

 

ใส่แล้วเจ็บไหม ?

ไม่เจ็บ แต่อาจจะรำคาญได้ในช่วงแรก ซึ่งเด็กมักปรับตัวได้เร็ว

 

ข้อปฏิบัติเมื่อใส่เครื่องมือกันช่องว่างระหว่างฟัน

– กรณีที่ใช้แบบติดแน่น ควรหลีกเลี่ยงหมากฝรั่งหรือลูกอม ซึ่งอาจทำให้เครื่องมือกันช่องว่างระหว่างฟันหลวมหรือ ติดเข้ากับเครื่องมือกันช่องว่างระหว่างฟันได้
– ไม่ควรกดหรือดันเครื่องมือกันช่องว่างระหว่างฟันด้วยลิ้นหรือนิ้วมือ เพราะอาจทำให้เครื่องมือกันช่องว่างระหว่างฟันหลวมหรือคดงอได้
– กรณีใช้แบบถอดได้ควรล้างทำความสะอาดเครื่องมือกันช่องว่างระหว่างฟันอย่างสม่ำเสมอ
– ควรปฏิบัติตามวิธีการแปรงฟันและใช้ไหมขัดฟันตามที่ทันตแพทย์แนะนำ

 

** ควรพาเด็กมาพบทันตแพทย์อย่างสม่ำเสมอเป็นประจำทุก 6 เดือน

มาเคลือบหลุมร่องฟันกันเถอะ

MU DENT faculty of dentistry

มาเคลือบหลุมร่องฟันกันเถอะ

อ.ทพญ.วีริษฏา ยิ้มเจริญ

ภาควิชาทันตกรรมเด็ก

“เคลือบหลุมร่องฟัน” คืออะไร

การเคลือบหลุมร่องฟัน คือ การใช้วัสดุเคลือบร่องฟันที่เป็นสารสีใสหรือสีขาวทึบคล้ายสีฟัน เคลือบผนึกลงบนฟันเพื่อปิดบริเวณหลุมและร่องฟันทีลึก ช่วยให้ทำความสะอาดได้ทั่วถึง ป้องกันฟันผุ การเคลือบหลุมร่องฟันนั้นทำได้ง่ายมากและใช้เวลาเพียง 1-2 นาที เท่านั้นต่อฟัน 1 ซี่

ขั้นตอนการ “เคลือบหลุมร่องฟัน”

 

ใครควร “เคลือบหลุมร่องฟัน”

การเคลือบหลุมร่องฟันควรทำในฟันที่มีหลุมร่องฟันลึกและแคบ ยากต่อการเข้าทำความสะอาดของขนแปรงสีฟัน ซึ่งส่วนใหญ่ได้แก่ฟันกรามแท้ ซี่ที่ขึ้น เมื่อเด็กอายุ 6 และ 12 ปี การเคลือบหลุมร่องฟันนิยมทำในช่วงวัยเด็กถึงวัยรุ่น ซึ่งฟันเพิ่งขึ้นมาในช่องปากไม่นานนัก อย่างไรก็ตามทันตแพทย์อาจแนะนำให้ เคลือบหลุมร่องฟันในฟันซี่อื่นๆ เช่น ฟันกรามน้อย ฟันหน้าบนแท้ หรือฟันกรามน้ำนม ได้ในทุกช่วงอายุ หากพิจารณาแล้วว่ามีความเสี่ยงและจำเป็นต้องได้รับการป้องกัน

 

ประโยชน์ของการ “เคลือบหลุมร่องฟัน”

– ป้องกันฟันผุในฟันที่มีหลุมและร่องลึก
– ป้องกันการลุกลามของรอยโรคฟันผุในระยะเริ่มแรก

 

การเคลือบหลุมร่องฟันมีขั้นตอนการทำที่ง่าย
ไม่เจ็บปวดและใช้เวลาน้อย
ซึ่งช่วยป้องกันการเกิดฟันผุบริเวณที่มีหลุมและร่องลึกได้

การรักษารากฟัน

MU DENT faculty of dentistry

การรักษารากฟัน

การฟอกสีฟันและการเคลือบผิวฟันต่างกันอย่างไร

MU DENT faculty of dentistry

การฟอกสีฟันและการเคลือบผิวฟันต่างกันอย่างไร

อ.ทพญ. มุนินทร์ ชัยชโลธร

ภาควิชาทันตกรรมหัตถการและวิทยาเอ็นโดดอนต์

การฟอกสีฟันคืออะไร?
การฟอกสีฟัน คือ การทำให้ฟันขาวขึ้นโดยใช้สารฟอกสีฟัน

 

สาเหตุที่ทำให้ฟันหมองคล้ำ
อาจเกิดจากการติดสีภายในหรือภายนอกตัวฟันก็ได้ หรืออาจเกิดร่วมกันก็ได้ ซึ่งการติดสีภายในตัวฟันก็มีหลายสาเหตุ โดยอาจเกิดจากการได้รับยาบางชนิดในช่วงวัยเด็กที่กำลังอยู่ในช่วงของการสร้างตัวฟัน หรือการเป็นโรคทางระบบบางชนิด ซึ่งก่อให้เกิดความผิดปกติในโครงสร้างของฟัน หรือการได้รับอุบัติเหตุที่ฟัน การกระแทก รอยผุ ฟันตาย ก็สามารถทำให้ฟันเปลี่ยนสีไปได้ ส่วนการติดสีภายนอกตัวฟันนั้น ส่วนมากมักเกิดจากสีที่อยู่ในอาหารที่เรารับประทาน ไม่ว่าจะเป็น ชา กาแฟ ไวน์แดง รวมถึงคราบบุหรี่

 

วิธีการรักษามีกี่วิธี ? อะไรบ้าง ?
การรักษาเพื่อให้ฟันขาวขึ้นนั้น ต้องพิจารณาวิธีการรักษาจากความรุนแรงของสีฟันที่ผิดปกติไป ขั้นต้นควรลองขัดฟันทำความสะอาดดูก่อนว่าฟันขาวขึ้นหรือไม่ หากยังคงมีสีที่เข้มผิดปกติอยู่จึงพิจารณาฟอกสีฟัน ซึ่งหลักๆ มี 2 วิธี คือ ทำโดยทันตแพทย์ และทำเองที่บ้าน
สำหรับการทำโดยทันตแพทย์ จะใช้สารฟอกสีฟันที่ความเข้มข้นสูงใช้เวลาไม่นาน เห็นผลรวดเร็ว
สำหรับการทำเองที่บ้าน ทันตแพทย์จะพิมพ์ปากเพื่อทำอุปกรณ์ถาดฟอกสีฟัน ให้ผู้ป่วยนำกลับไปใส่ที่บ้าน หรือกรณีที่ทำมาสำเร็จรูปแล้วก็มี

 

ประสิทธิภาพของการฟอกสีฟัน
ฟันที่ถูกฟอกสีจะมีการคืนกลับของสี เข้มขึ้นเล็กน้อยซึ่งเกิดจากการดูดน้ำกลับของฟัน และจะคงที่ภายใน 6 สัปดาห์แรกหลังจากฟอกสี หากทำโดยทันตแพทย์มักเห็นผลว่าขาวขึ้นทันทีภายหลังจากการฟอกสีฟัน แต่หากเป็นการทำเองที่บ้าน ฟันจะค่อยๆ ขาวขึ้น ซึ่งอาจจะเห็นความแตกต่างได้น้อยกว่า และเนื่องจากการฟอกสีโดยทันตแพทย์นั้นใช้เวลาเร็วเพื่อให้ฟันขาวขึ้น ดังนั้นการกลับคืนของสีก็จะเร็วกว่าการฟอกเองที่บ้านด้วย จึงแนะนำให้ทำร่วมกันทั้ง 2 วิธี ภายใต้คำแนะนำของทันตแพทย์

 

ข้อดี – ข้อเสีย และผลข้างคียง
ข้อดี ก็เป็นที่แน่นอนว่าทำให้ฟันขาวขึ้น
ข้อเสีย นั้นในบางกรณีอาจเกิดอาการเสียวฟันได้ และหากน้ำยาฟอกสีฟันไปสัมผัสบริเวณเหงือกก็อาจทำให้เกิดแผลได้ นอกจากนี้การฟอกสีจะเปลี่ยนเฉพาะสีฟันเท่านั้น ไม่มีผลต่อวัสดุอุดเดิมและครอบฟันเดิม หากมีวัสดุอุดเดิมอยู่หรือครอบฟันเดิมอยู่ก็อาจจำเป็นต้องเปลี่ยนให้มีสีที่เท่ากันกับภายหลังการฟอกสี

 

วิธีการดูแลรักษาเพื่อคงสภาพสีฟันหลังจากการฟอกสีฟัน
งดการรับประทานอาหารที่มีสีเข้ม เพื่อชะลอการติดสีของฟัน และดูแลอนามัยช่องปากให้ดี หากมีอาการเสียวฟันก็อาจใช้ยาสีฟันช่วยลดอาการเสียวฟันได้

 

 

การเคลือบผิวฟัน ( Veneer )

 

การเคลือบผิวฟันคืออะไร ?
การเคลือบผิวฟัน หรือ veneer นั้นคือ การใช้วัสดุสีเหมือนฟันปิดบริเวณผิวหน้าของฟัน

 

เพราะเหตุใดจึงต้องเคลือบผิวฟัน
ทำเมื่อต้องการแก้ไขขนาด รูปร่าง หรือตำแหน่งของฟันที่มีความผิดปกติเล็กน้อย รวมทั้งในบางกรณีสามารถที่จะเปลี่ยนสีของฟันให้เสมอกันได้ด้วย

 

ประเภทของการเคลือบผิวฟัน
หลักๆ มี 2 ประเภท
1. การทำ veneer ขึ้นโดยตรงภายในช่องปากด้วยเรซินคอมโพสิต
2. การสร้างชิ้นงานจากห้องปฏิบัติการแล้วนำมายึดติดในช่องปาก ชิ้นงานอาจทำจากวัสดุเซรามิก หรือวัสดุคอมโพสิตอีกชนิดหนึ่ง จะมีความคงทนมากกว่าประเภทแรก ชิ้นงานที่ทำขึ้นจะมีความหนาประมาณ 0.3 – 0.5 mm. หรือประมาณความหนาของ contact lens

 

ขั้นตอนการรักษา
เริ่มแรกจะต้องได้รับการตรวจประเมินอย่างละเอียดก่อนว่าปัญหาที่ต้องการแก้ไข สามารถแก้ไขด้วยการทำ veneer ได้ จากนั้นจะเข้าสู่ขั้นตอนการกรอผิวเคลือบฟันเพื่อเตรียมให้ฟันมีลักษณะที่เหมาะสมต่อการทำ veneer หากเป็นการทำโดยตรงในช่องปากจะสามารถทำ veneer ด้วยเรซินคอมโพสิตต่อได้เลย แต่หากเลือกใช้วัสดุเซรามิก ทันตแพทย์จะพิมพ์แบบจำลองฟัน ในกรณีที่ต้องส่งแล็บเพื่อสร้างชิ้นงาน เมื่อได้ชิ้นงานแล้วก็นำมายึดติดในช่องปากอีกครั้ง

 

ข้อดี – ข้อเสีย
ข้อดี มีความคงทน สวยงาม สีจะขาวขึ้นโดยควบคุมได้มากกว่าการฟอกสีฟัน สามารถเลือกสีที่ต้องการได้ตั้งแต่ต้น
ข้อเสีย คือมีการกรอฟัน ทำให้สูญเสียเนื้อฟัน

 

วิธีการดูแลรักษาหลังทำการเคลือบฟัน
ควรดูแลอนามัยช่องปากให้ดี รวมทั้งควรงดการใช้งานที่ผิดปกติ เช่น นำไปกัดอาหารแข็งหรือเหนียว

ช่องว่างระหว่างฟัน แก้ไขอย่างไร

MU DENT faculty of dentistry

ช่องว่างระหว่างฟัน แก้ไขอย่างไร

อ.ทพญ.อภิญญา ลิ้มวิศิษฎ์สกุล

ภาควิชาทันตกรรมหัตถการและวิทยาเอ็นโดดอนต์

 

ช่องว่างระหว่างฟันคืออะไร

โดยลักษณะปกติแล้ว ฟันสองซี่จะอยู่ติดกันโดยปราศจากช่องว่างแต่ถ้าฟันสองซี่ที่ติดกันไม่อยู่ชิดกันด้วยสาเหตุใดๆก็ตาม ก็จะทำให้เกิดช่องว่างระหว่างฟันขึ้น ซึ่งจะมีผลต่อความสวยงามและเศษอาการติดตรงบริเวณนั้นได้

 

สาเหตุที่ทำให้เกิดช่องว่างระหว่างฟันคืออะไร

สาเหตุที่เกิดช่องว่างระหว่างฟันมีด้วยกันหลายสาเหตุ
1. การสูญเสียฟันก่อนกำหนด หรือฟันแท้ไม่ขึ้นในช่องปาก ทำให้มีช่องว่างบริเวณนั้น
2. ความไม่สัมพันธ์กันของซี่ฟันและขนาดขากรรไกร โดยซี่ฟันมีขนาดเล็ก แต่ขากรรไกรมีขนาดใหญ่ แม้ฟันจะขึ้นครบในช่องปากก็ยังเกิดช่องว่างบริเวณนั้นได้
3. ลักษณะนิสัยผู้ป่วยที่มักใช้ลิ้นดุนฟันเวลากลืนทำให้มีแรงดันที่ฟันหน้าเกิดเป็นช่องว่างที่บริเวณนั้น
4. ความผิดปกติของเนื้อเยื่อโยงยึดระหว่างริมฝีปากกับสันเหงือก ที่มีลักษณะหนาหรือแข็งมากกว่าปกติหรือยึดเกาะผิดตำแหน่งทำให้ขวางการเคลื่อนมาประชิดกันของฟันหน้า
5. การได้รับอุบัติเหตุบางประการ ที่ทำให้ฟันโยกเคลื่อนจากตำแหน่งและไม่ได้รับการรักษาที่เหมาะสม
6. เกิดจากผู้ป่วยเป็นโรคปริทันต์รุนแรง ที่ทำให้ฟันเคลื่อนโยกออกจากตำแหน่งเดิมและไม่ได้รับการรักษาที่เหมาะสม

 

ปัญหาต่างๆนั้นเราสามารถแก้ไขได้อย่างไรบ้าง

สำหรับวิธีการรักษาช่องว่างระหว่างฟัน สิ่งแรกที่ต้องพิจารณาก็คือสาเหตุการเกิดช่องว่างระหว่างฟันนั้นและทำการแก้ไขให้ถูกต้องตามสาเหตุ

การรักษาที่ 1 คือ การติดตามดูอาการร่วมกับการปรับพฤติกรรมในผู้ป่วยที่มีสาเหตุของช่องว่างระหว่างฟันที่เกิดจากการเอาลิ้นดุนฟัน

การรักษาที่ 2 คือ การจัดฟันโดยใช้เครื่องมือช่วยในการเคลื่อนฟันให้มาประชิดกัน

การรักษาที่ 3 คือ การอุดฟันด้วยวัสดุสีเหมือนฟันหรือการใช้การเคลือบผิวหน้าฟันที่เรียกว่า วีเนียร์ (Veeneer)

การรักษาที่ 4 คือ ในกรณีที่คนไข้มีช่องว่างระหว่างฟันที่มีสาเหตุจากความผิดปกติของเนื้อเยื่อโยงยึดก็จะต้องทำการผ่าตัดแก้ไขร่วมกับการรักษาอื่นๆ ที่กล่าวไปเบื้องต้น

 

Frenectomy

Koora K, Muthu M S, Rathna PV. Spontaneous closure of midline diastema following frenectomy. J Indian Soc Pedod Prev Dent 2007;25:23-6

 

การรักษาสุดท้าย ในกรณีที่ช่องว่างระหว่างฟัน มีขนาดใหญ่ที่จะอุดปิดได้ก็อาจจะต้องพิจารณาในการใช้ฟันทดแทน แต่จะเลือกการรักษาโดยวิธีการใด จำเป็นต้องพิจารณาร่วมกับผู้ป่วยด้วยเช่นกัน

 

การดูแลรักษาหลังจากที่ได้ทำการรักษาไปแล้วควรทำอย่างไร
คือ การแปรงฟันร่วมกับการใช้ไหมขัดฟันตามปกติ แต่ในกรณีรักษาโดยการอุดปิดด้วยวัสดุสีเหมือนฟันหรือเคลือบผิวฟันอาจต้องระวัง หลีกเลี่ยงการกัดอาหาร แข็งเหนียว เนื่องจากวัสดุอุดหรือบริเวณนั้นมีโอกาสแตกหักได้ง่ายกว่าฟันปกติ

รักษารากฟันคืออะไร

MU DENT faculty of dentistry

รักษารากฟันคืออะไร

ทำไมต้องอุดฟัน

MU DENT faculty of dentistry

ทำไมต้องอุดฟัน

รศ.ดร. ดนุชิษณ์ พนมยงค์

ภาควิชาทันตกรรมหัตถการและวิทยาเอ็นโดดอนต์

การอุดฟัน คือ การทดแทนเนื้อฟันที่สูญเสียไปจากกรณีต่างๆ ดังนี้

1. ฟันผุ
2. ฟันสึก
3. ฟันแตกหักหรือบิ่นเนื่องจากอุบัติเหตุ
4. วัสดุอุดเก่าชำรุดหรือบิ่น

เพื่อให้กลับมามีรูปร่างฟันตามปกติ สามารถใช้บดเคี้ยวอาหารได้ รวมถึงมีความสวยงาม โดยเฉพาะในบริเวณฟันหน้า ทันตแพทย์จะเป็นผู้ตรวจและวินิฉัยว่าควรได้รับการอุดฟันหรือไม่

 

มารู้จักวัสดุอุดฟันกันเถอะ
วัสดุอุดฟันที่ได้รับความนิยมในปัจจุบันมีดังนี้

1. วัสดุอุดโลหะ (อะมัลกัม)
2. วัสดุอุดสีเหมือนฟัน (เรซินคอมโพสิต)

นอกจากนี้ยังมีวัสดุอุดฟันชนิดอื่นๆ เช่น ทอง กลาสไอโอโนเมอร์ พอร์ซเลน

 

วัสดุอุดโลหะ (อะมัลกัม)
เป็นวัสดุอุดฟันที่คงทน แข็งแรง และราคาไม่แพง แต่เนื่องจากวัสดุมีสีเงิน/สีเทา มองแล้วไม่สวยงาม จึงไม่นิยมใช้ในบริเวณที่มองเห็นได้ง่าย เช่น ฟันหน้า สำหรับผู้ป่วยที่อุดด้วยวัสดุอุดนี้ ไม่ควรเคี้ยวอาหารด้านที่อุดฟันเป็นระยะเวลา 24 ชั่วโมง เนื่องจากวัสดุที่ใช้ ในระยะแรกยังมีความแข็งแรงไม่เต็มที่ มีโอกาสเสี่ยงต่อการแตกหักได้ อย่างไรก็ตามสามารถเคี้ยวอาหารได้ปกติภายหลัง 24 ชั่วโมง

 

วัสดุอุดสีเหมือนฟัน (เรซินคอมโพสิต)
เป็นวัสดุอุดที่มีสีใกล้เคียงกับฟันธรรมชาติ จึงมักถูกเลือกใช้สำหรับบริเวณที่ต้องการความสวยงาม วัสดุอุดนี้มีความแข็งแรงพอสมควร แต่รับแรงบดเคี้ยวได้น้อยกว่าวัสดุอุดโลหะจึงไม่นิยมใช้อุดฟันขนาดใหญ่ อาจจะเกิดการบิ่น แตกหักได้ง่าย และมีราคาแพงกว่าวัสดุอุดโลหะ นอกจากนี้ในระยะยาวสามารถติดสีคราบจากชา กาแฟ หรือยาสูบได้

 

ฟันที่ได้รับการอุดจะอยู่กับเราได้นานเท่าใด ?

ความคงทนของวัสดุอุดนั้นขึ้นอยู่กับ

• ชนิดของวัสดุอุดที่ใช้
• การบดเคี้ยว การใช้งาน การเลือกรับประทานอาหาร ที่ไม่แข็ง และเหนียวเกินไป
• การดูแลรักษาความสะอาดช่องปากที่ดี
• พฤติกรรมของแต่ละบุคคล เช่น นอนกัดฟัน การแปรงฟันแรงเกินไป เป็นต้น

 

สรุป
การอุดฟัน เป็นเพียงการแก้ไขปัญหาการสูญเสียเนื้อฟันที่เกิดขึ้นจากสาเหตุต่างๆ เท่านั้น แต่การป้องกันที่ดีที่สุด คือ การดูแลรักษาสุขภาพช่องปากของตนเอง ด้วยการแปรงฟันที่ถูกวิธี ลดพฤติกรรมต่างๆ ที่ไม่ดี เช่น การกินอาหารที่เหนียวติดฟัน การใช้ฟันผิดหน้าที่ ชอบเคี้ยวของแข็ง ฯลฯ และมาพบทันตแพทย์เป็นประจำ ปีละ 1-2 ครั้ง เพื่อตรวจสุขภาพช่องปาก

ทันตกรรมรากเทียม

MU DENT faculty of dentistry

ทันตกรรมรากเทียม

รศ.ดร.ทพ.ชูชัย อนันต์มานะ

ภาควิชาทันตกรรมประดิษฐ์

รากฟันเทียมคืออะไร ?
รากฟันเทียม คือ วัสดุที่ฝังลงบนกระดูกขากรรไกร เพื่อทดแทนส่วนที่เป็นรากฟันของฟันธรรมชาติที่สูญเสียไป

 

วัสดุที่ใช้ทำรากฟันเทียม
รากฟันเทียมโดยทั่วไปแล้วจะผลิตจากโลหะผสมไททาเนียม เนื่องจากมีความแข็งแรงและสามารถเข้ากับเนื้อเยื่อของร่างกายได้ดี

 

รากฟันเทียมเหมาะกับใครบ้าง ?
รากฟันเทียม สามารถทำได้กับผู้ใหญ่ที่มีอายุ 21 ปี ขึ้นไป มีสุขภาพแข็งแรงพอที่จะรับการผ่าตัดในช่องปากได้อย่างปลอดภัยในกรณีวัยรุ่นจะยังมีการเจริญเติบโตของกระดูกขากรรไกร จึงจำเป็นต้องรอให้ขากรรไกรหยุดการเจริญเติบโตก่อน จึงจะสามารถใส่รากฟันเทียมได้

 

ข้อดีของรากฟันเทียม

– ในกรณีที่ทำเพื่อแทนฟันที่ถอนไปบางซี่จะไม่มีการสูญเสียเนื้อฟันธรรมชาติของฟันข้างเคียงที่เหลืออยู่ เมื่อเปรียบเทียบกับการทำสะพานฟัน
– ในกรณีที่ทำเป็นฟันเทียมชนิดถอดได้ จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการยึดติดของฟันเทียมในช่องปาก
– คล้ายฟันธรรมชาติ (ใช้งานและสวยงามใกล้เคียงฟันธรรมชาติ)

 

ข้อเสียของรากฟันเทียม

– ค่าใช้จ่ายสูง และถ้าหากผู้ป่วยมีกระดูกไม่แข็งแรง หรือไม่เพียงพอก็ต้องมีการผ่าตัดและมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม
– การผ่าตัดฝังรากฟันเทียมอาจจะต้องมีการผ่าตัดหลายครั้ง
– ใช้ระยะเวลาในการรักษาจนเสร็จสมบูรณ์นานกว่าการทำสะพานฟันปกติ เนื่องจากต้องแบ่งการรักษาเป็น 2 ระยะ โดยการทำรากฟันเทียมจะต้องใช้ระยะเวลาอย่างน้อย 2 – 3 เดือน

 

ขั้นตอนทั่วไปของการรักษาด้วยรากฟันเทียม

– พบทันตแพทย์เพื่อตรวจสภาพฟันต่างๆ ภายในช่องปากและพิมพ์ปากเพื่อนำมาวางแผนการรักษา
– ถ่ายภาพรังสีเพื่อประเมินสภาพกระดูกและโครงสร้างอื่น เช่น เส้นประสาท โพรงอากาศของคนไข้
– ฝังรากฟันเทียมและรอไปอีกอย่างน้อย 2 – 3 เดือน เพื่อให้เกิดการยึดติดของรากฟันเทียมกับกระดูก
– ทำครอบฟัน สะพานฟัน หรือฟันเทียมชนิดอื่น

 

การดูแลรักษา

หลังการปลูกรากฟันเทียมสามารถดูแลและรักษาสุขภาพของปากและฟันได้เหมือนการดูแลปกติทั่วไป และทำความสะอาดเป็นพิเศษ บริเวณที่ทำการปลูกรากฟันเทียมและบริเวณเหงือกโดยรอบ ด้วยแปรงขัดที่มีลักษณะพิเศษ ขนาดเล็กและควรเข้ารับการตรวจช่องปากกับทันตแพทย์เป็นประจำ
การรักษาด้วยการฝังรากเทียมนี้ หากได้รับการดูแลอย่างถูกต้องและเข้ารับการตรวจสภาพฟันอย่างสม่ำเสมอ ฟันทดแทนก็สามารถมีอายุการใช้งานเสมือนหนึ่งฟันแท้ซี่อื่นๆ เช่นกัน

การดูแลสุขภาพช่องปากผู้สูงอายุ

MU DENT faculty of dentistry

การดูแลสุขภาพช่องปากผู้สูงอายุ

รศ.ทพญ.พจมาน ศรีนวรัตน์

ภาควิชาทันตกรรมประดิษฐ์

การดูแลสุขภาพช่องปากผู้สูงอายุ

การมีสุขภาพช่องปากที่ดีมีความสำคัญกับทุกวัย และยิ่งสำคัญเพิ่มขึ้นเมื่อเข้าสู่วัยสูงอายุเพราะฟันของผู้สูงอายุที่เหลืออยู่ มีการเปลี่ยนแปลงจากการใช้งานมายาวนาน หรือมีโรคที่เป็นมาตั้งแต่ก่อนถึงวัยสูงอายุ มีการสูญเสียฟัน เกิดช่องว่าง ทำให้การดูแลรักษาความสะอาดทำได้ยากกว่าฟันทั่วๆ ไป ผู้สูงอายุที่มีสุขภาพช่องปากดีจะช่วยให้รู้สึกสบาย รับประทานอาหารได้อร่อยและหลากหลายประเภท มีร่างกายแข็งแรง ช่วยการพูดออกเสียงได้ชัดเจน ไม่ต้องกังวลในการเข้าสังคมและส่งเสริมให้มีคุณภาพชีวิตที่ดี ถ้าสุขภาพช่องปากไม่ดีจะมีความเสี่ยงต่อปัญหาสุขภาพอื่นๆ ได้ เพราะจุลินทรีย์จากการติดเชื้อในช่องปากอาจผ่าเข้าสู่กระแสเลือดไปที่หัวใจ โดยเฉพาะในผู้ที่มีประวัติความผิดปกติของหัวใจหรือเข้าสู่ทางเดินหายใจ

ปัญหาสุขภาพช่องปากของผู้สูงอายุมีอะไรบ้าง
ปัญหาสุขภาพช่องปากที่พบบ่อยในผู้สูงอายุคือโรคฟันผุและเหงือกอักเสบซึ่งทำให้เกิดการสูญเสียฟัน ทั้งโรคฟันผุและเหงือกอักเสบหรือปริทันต์อักเสบมีสาเหตุจากคราบจุลินทรีย์ (plaque) คราบจุลินทรีย์คือแผ่นคราบนิ่มๆ สีขาวที่มีเชื้อแบคทีเรีย คราบนี้สะสมที่ฟันและขอบเหงือก ดังนั้นการกำจัดคราบจุลินทรีย์โดยแปรงฟันให้สะอาดทุกวันจะช่วยป้องกันฟันผุ และเหงือกอักเสบ และลดการติดเชื้อในช่องปากได้

การดูแลสุขภาพช่องปากสำหรับผู้สูงอายุที่มีฟันธรรมชาติ

• แปรงฟันให้สะอาดด้วยแปรงชนิดขนแปรงนิ่มร่วมกับยาสีฟันที่มีฟลูออไรด์อย่างน้อยวันละ 2 ครั้ง คือ เช้าและก่อนนอน
• ควรเลือกแปรงที่มีด้ามจับถนัดมือ หรือดัดแปลงด้ามจับให้มีขนาดเหมาะสมกับมือผู้สูงอายุ
• พยายามแปรงฟันทุกซี่ ทุกด้าน เพื่อกำจัดคราบอาหารและคราบจุลินทรีย์

• ใช้แปรงที่มีหัวแปรงขนาดเล็ก แปรงฟันซี่ที่อยู่โดดๆ

• ใช้ไหมขัดฟัน (dental floss) เช็ดทำความสะอาดบริเวณซอกฟัน เพราะขนแปรงสีฟันทั่วไปไม่สามารถเข้าถึงบริเวณนี้ หรืออาจเลือกใช้แปรงซอกฟัน (proxabrush) ที่มีขนาดเหมาะสมกับซอกฟันตามคำแนะนำของทันตแพทย์

• ใช้ผ้าก๊อซพับเป็นแถบขนาดเล็กโอบเช็ดฟันด้านที่ติดกับช่องว่างที่ถอนฟันไปโดยเช็ดให้ชิดกับขอบเหงือก

อันตรายจาก…ฟันเทียมเถื่อน

MU DENT faculty of dentistry

อันตรายจาก…ฟันเทียมเถื่อน

อ.ทพญ. ปุญญานิช รุ่งนาวา

ภาควิชาทันตกรรมประดิษฐ์

ฟันเทียม คือ ฟันที่ถูกประดิษฐ์ขึ้นเพื่อทดแทนฟันธรรมชาติที่สูญเสียไป ฟันเทียมมี 2 ประเภทด้วยกัน คือ ฟันเทียมชนิดติดแน่น และ ฟันเทียมชนิดถอดได้
ฟันเทียมเถื่อน คือ ฟันเทียมที่ถูกประดิษฐ์ขึ้นจากบุคคลที่มิใช่ทันตแทพย์ที่มีใบประกอบวิชาชีพ

 

1. ฟันเทียมที่ทำโดยทันตแพทย์ต่างกับฟันเทียมที่ทำตามแผงลอยอย่างไร ?
ฟันเทียมที่ทำโดยทันตแพทย์นั้นจะมีการออกแบบ และทำตามขั้นตอนที่ถูกต้องตามหลักการ ซึ่งฟันเทียมที่ได้จะมีการยึดอยู่ และถ่ายทอดแรงสู่ฟันธรรมชาติและเนื้อเยื่อได้อย่างถูกต้องเหมาะสม ต่างจากฟันเทียมเถื่อนที่มีการออกแบบได้ไม่ถูกต้องตามหลักการ และอาจรวมถึงกระบวนการทำที่ไม่สะอาดปลอดภัย ซึ่งอาจก่อให้เกิดอันตรายตามมาได้

 

2. อันตรายจากการทำฟันเทียมเถื่อน
– เนื้อเยื่อภายในช่องปากอักเสบ บวมแดง อาจรุนแรงถึงขั้นมีการละลายตัวของกระดูกขากรรไกร

 

– ฟันโยก แตก หรือหัก เหงือกรอบตัวฟันอักเสบ บวมแดง เป็นหนอง

 

– เกิดการติดเชื้อบริเวณใบหน้าขากรรไกร จากการใช้อุปกรณ์ที่ไม่สะอาดถูกหลักอนามัย หรือการใช้วัสดุที่ไม่เหมาะสม

 

3. การแก้ไข และการรักษาเมื่อมาพบทันตแพทย์
ฟันเทียมเถื่อนโดยมากไม่สามารถแก้ไขได้ และควรทำชุดใหม่ ทันตแพทย์จะตรวจภายในช่องปาก และถ่ายภาพรังสีในช่องปากอย่างละเอียดอีกครั้ง ก่อนพิจารณาวางแผนการรักษาและออกแบบฟันเทียมชุดใหม่

 

4. คำแนะนำ
ผู้ป่วยส่วนมากเลือกที่จะทำฟันเทียมเถื่อนเพราะสะดวก รวดเร็ว และราคาถูกกว่าการทำฟันเทียมกับทันตแพทย์ ทันตแพทย์อยากให้ผู้ป่วยตระหนักถึงอันตรายที่อาจเกิดขึ้นภายหลังการใส่ฟันเทียมเถื่อนให้มาก ซึ่งบางครั้งอาจไม่คุ้มค่ากับเวลาเพียงเล็กน้อย อย่างไรก็ตามการทำฟันเทียมกับทันตแพทย์จะได้ฟันเทียมที่สวยงาม ใช้งานได้นาน และได้มาตรฐานสะอาดปลอดภัย แม้จะใช้เวลาที่มาพบทันตแพทย์หลายครั้งและราคาสูงกว่า

 

5. สรุป
ทันตแพทย์แนะนำให้ผู้ป่วยเลี่ยงการทำฟันเทียมกับผู้ที่ไม่ใช่ทันตแพทย์ และมารับการรักษาที่ดีการทันตแพทย์จะดีที่สุด