INTRANET

Generic selectors
Exact matches only
Search in title
Search in content
Post Type Selectors
Generic selectors
Exact matches only
Search in title
Search in content
Post Type Selectors
11

ชื่อ-นามสกุล :

อ.ทพญ. สิรินทิพย์ อมรสุรเดช

ชื่อเล่น :

ทิพย์

ปัจจุบันทำงานที่: ภาควิชาทันตกรรมชุมชน คณะทันตแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล
คติประจำใจ: Things happen for some reasons and people have their own value

 

นอกจากงานประจำแล้วมีงานอดิเรกอะไรที่ชอบทำบ้างคะ :
ถ้านอกเหนือจากการเป็นอาจารย์ที่คณะฯเป็นหลักแล้ว คงเป็นการใช้วิชาความรู้ของเราในการดูแลรักษาคนไข้ที่คลินิกค่ะ นอกจากนี้ก็อยู่กับครอบครัว มีชอบฟังเพลง เล่นดนตรีบ้าง เพื่อผ่อนคลายค่ะ

 

อยากให้คุณหมอช่วยเล่าถึงเหตุการณ์ที่ประทับใจที่ได้ไปออกชุมชนสัก 1 เคสค่ะ :
ตอนเป็นนักศึกษาทันตแพทย์ชั้นปีที่ 5 ได้ไปออกชุมชนครั้งแรกในฐานะนักศึกษาทันตแพทย์ค่ะ โดยการออกชุมชนจะมี 2 ส่วนคือ ส่วนศึกษาชุมชนที่หมู่บ้านในอำเภอสูงเนิน จังหวัดนครราชสีมา ประมาณ 1 สัปดาห์ และส่วนศึกษาระบบสาธารณสุขของประเทศไทยที่โรงพยาบาล ซึ่งแต่ละกลุ่มจะแยกย้ายไปตามโรงพยาบาลในอำเภอต่างๆ อีก 1 สัปดาห์

 

ในส่วนการศึกษาชุมชนในหมู่บ้าน มีการแบ่งกลุ่มไปตามบ้านและอาศัยอยู่กับชาวบ้าน โดยมีเป้าหมายรวมของกลุ่ม คือการค้นหาปัญหาสุขภาพของคนในชุมชน ทำให้ได้มีโอกาสลงสำรวจพื้นที่ ใช้การสังเกตและสัมภาษณ์ชาวบ้านเพื่อเก็บข้อมูล เป็นศึกษาชุมชนแบบจริงๆโดยมีอาจารย์คอยแนะแนวทางและถอดบทเรียนค่ะ สิ่งที่ประทับใจคือ ตอนเราไปอยู่ที่หมู่บ้าน ต้องอยู่กับเพื่อนในกลุ่มประมาณ 1 สัปดาห์ กินด้วยกัน นอนด้วยกัน ทำงานด้วยกัน ทำให้รู้จักเพื่อนในมุมอื่นๆและสนิทกันมากขึ้นค่ะ ชาวบ้านที่หมู่บ้านก็ใจดีมาก บ้านที่ไปอยู่ เราเรียกเจ้าของบ้านว่าพ่อกับแม่เลย แค่ไม่กี่วันก็รู้สึกผูกพันกับพ่อแม่และชาวบ้านที่หมู่บ้านมากๆ ชาวบ้านที่หมู่บ้านก็กรุณารับนักศึกษาเพื่อให้ได้มาเรียนรู้และศึกษาชุมชนทุกๆปี ถือว่าเป็นครูที่สอนประสบการณ์ชีวิตจริงได้เลยค่ะ

 

พอได้มาดูงานที่โรงพยาบาลในสัปดาห์ต่อมา ก็ได้รับการดูแลจากทันตแพทย์พี่เลี้ยง ที่คอยสอนและจัดตารางกิจกรรมให้เราเรียนรู้มากที่สุด ด้วยความที่ตัวเองอาศัยอยู่ใกล้เมืองมาเกือบตลอด เลยเป็นการสัมผัสโรงพยาบาลชุมชนครั้งแรก ผู้ป่วยที่มารอพบหมอแน่นโรงพยาบาลตั้งแต่เช้า ที่คลินิกเบาหวานก็มีคนไข้เต็มทุกวัน หลายคนต้องเดินทางจากบ้านมาไกล มีวันหนึ่งทันตแพทย์พี่เลี้ยง มอบหมายให้ไปสัมภาษณ์ผู้ป่วยที่หอผู้ป่วยใน ซึ่งเป็นหอผู้ป่วยรวม ลักษณะเป็นเตียงที่ห่างกันไม่มาก ไม่มีม่านกั้น มองไปจะเห็นมีเสื่อกับหมอนอยู่ใต้เตียง เกิดสงสัย เลยถามพี่พยาบาลว่า เสื่อกับหมอนที่อยู่ใต้เตียงมีไว้ทำไม พี่พยาบาลบอกว่านั่นคือ ที่นอนญาติ! ตอนนั้นจำได้ว่าอึ้งไปเลยค่ะ เพราะห้องพักผู้ป่วยในโรงพยาบาลที่เราเคยสัมผัสมา หรือที่เคยเห็นในละคร ตอนนางเอกป่วย คือ มีห้องส่วนตัว มีเตียง มีแอร์ มีโซฟา นั้น แตกต่างจากสิ่งที่อยู่ตรงหน้ามากเลย

 

การออกชุมชนเป็นการเปิดโลกแห่งจริงที่เราไม่เคยรู้หรือสัมผัสมาก่อน ด้วยความที่เราเรียนหมอฟัน เราก็จะคอยจับผิดหรือโฟกัสแต่เรื่องฟัน ที่คณะก็จะเจอแต่คนไข้ที่มาหาเราเพื่อทำฟัน แต่ในความเป็นจริง อาจจะมีแค่พวกเราที่โฟกัสเรื่องฟัน อาจจะโกรธคนไข้ตอนที่ไม่มาตามนัด ทั้งๆที่ชาวบ้านหรือคนอื่นๆยังมีเรื่องสุขภาพกาย เรื่องความเป็นอยู่ เรื่องปากท้อง หรือเรื่องอื่นๆที่สำคัญกับเขามากกว่าเรื่องฟัน นั่นทำให้เรามองเห็นมุมของคนไข้มากขึ้นค่ะ จากเดิมเราเคยรู้สึกว่าเราตัวใหญ่มาก เรื่องของเราสำคัญที่สุด กลายเป็นทำให้เรามองเห็นตัวเราเล็กลง ลดอัตตาของตัวเองลง มองเห็นผู้อื่น มองเห็นคนรอบข้าง มองเห็นสังคมตามที่เป็นจริงมากขึ้น และทำให้รู้ว่าระบบสาธารณสุขของประเทศไทยยังต้องพัฒนาอีกมาก และเราเองก็เป็นส่วนหนึ่งของระบบนั้น

 

นั่นอาจจะเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้รู้สึกชอบวิชาชุมชนค่ะ ในวันนี้ที่ได้มาเป็นอาจารย์ภาคทันตกรรมชุมชนก็อยากจะทำให้นักศึกษาเห็นว่า เขาอยู่ในฐานะจะสามารถช่วยเพื่อนมนุษย์ได้ หรือทำให้สังคมน่าอยู่ขึ้นได้ ยังมีคนอีกมากที่เขาไม่ได้สบายเหมือนเรา คนเราเลือกเกิดไม่ได้และแต่ละคนมีต้นทุนชีวิตไม่เท่ากัน ในฐานะทันตแพทย์ เราสามารถทำให้ประชาชนได้มีสุขภาพช่องปากที่ดี เพื่อเป็นต้นทุนในการใช้ชีวิต ไม่ต้องมาเสียเงินมากๆเพื่อรักษาโรคฟัน ที่จริงๆแล้วสามารถป้องกันได้ตั้งแต่ต้นค่ะ

 

สุดท้ายมีอะไรอยากจะฝากบอกท่านผู้อ่านบ้างคะ (แนะนำการดูแลสุขภาพช่องปากสั้นๆ) :
สำหรับทันตแพทย์ ก็คิดว่า สิ่งที่เราสามารถทำได้คือช่วยกันทำให้สุขภาพช่องปากของคนไทยดีขึ้นได้ด้วยการป้องกันและรักษาคนไข้ให้ดีที่สุด ให้คนไข้สามารถดูแลสุขภาพช่องปากตัวเองได้ ไม่ต้องรอจนพังแล้วมาซ่อมกับเราค่ะ

 

สำหรับทุกๆท่านนะคะ สุขภาพช่องปากดูแลให้ดีได้ ป้องกันได้ก่อนจะสาย เริ่มต้นที่ตัวเรา ใช้หลัก Eat Clean Check โดย ลดอาหารที่ส่งผลเสียต่อฟันเช่น อาหารหวานและเปรี้ยว ทำความสะอาดฟันอย่างถูกวิธี และพบทันตแพทย์เพื่อตรวจฟันอย่างน้อยทุก 6 เดือน ถ้าเราดูแลฟันดี ฟันก็จะอยู่กับเราไปตลอดชีวิตเลยค่ะ