นักศึกษาทันตแพทย์ประจำบ้าน หลักสูตร Master of Science (MSc.)
and Postgraduate Implant Dentistry Residency Training Program
เรียนจบทันตแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล Doctor of Dental Surgery degree (DTMU48)
เกียรตินิยมอันดับ 2 หลังจากนั้น ศึกษาต่อ ปริญญาโท และ ทันตแพทย์เฉพาะทางรากฟันเทียม จาก Tufts University
อยู่ที่ เมืองบอสตัน รัฐแมสซาชูเซตส์ สหรัฐอเมริกา

จุดเริ่มต้นของการตัดสินใจเรียนที่นี่

ช่วงทำงานเป็นทันตแพทย์ทั่วไป หรือ General dentist ได้มีโอกาสให้การรักษาผู้ป่วยในทุกแขนงของโรค ปรางให้ความสำคัญกับขั้นตอนวางแผนการรักษาผู้ป่วยที่เป็นเหมือนสมาชิกในครอบครัวของเรา และผลการรักษาที่จะยืนยาว สามารถมอบประสบการณ์ทำฟันที่ดีให้กับผู้ป่วยได้ ในบางเคสที่ซับซ้อน ปรางจะพบว่า ความรู้ที่ปรางมีในตอนนั้นยังไม่สามารถเพียงพอ จำเป็นต้องส่งปรึกษาคุณหมอเฉพาะทางหลายท่าน ที่แตกต่างคนละแขนงกันไป และนี่ทำให้ ปรางตัดสินใจมาเรียนต่อเฉพาะทางด้านรากฟันเทียม ที่ Tufts University, School of Dental Medicine ซึ่งหลักสูตรประกอบไปด้วยงานเฉพาะทางและอาจารย์ทันตแพทย์เฉพาะทาง ศัลยกรรม (Oral Surgery), ปริทันต์ (Periodontology) และทันตกรรมประดิษฐ์ (Prosthodontics) หลักสูตรนี้ยังเน้น Digital Dentistry ที่นำเทคโนโลยีใหม่ๆมาร่วมใช้ในการรักษาผู้ป่วย ซึ่งทำให้ปรางรู้ลึกรู้จริง สามารถให้การรักษาเป็นองค์รวม สามารถมองแผนการรักษาได้ตั้งแต่ต้นจนจบ เรียกได้ว่า ทำให้ปรางมีความรู้ให้การรักษาครบจบในคนเดียว ต้นน้ำถึงท้ายน้ำค่ะ นอกจากนั้น อยากเน้นมาเรียนเทคโนโลยีใหม่ๆ หรือเราเรียกกันว่า Digital Dentistry ที่อเมริกาเขาอาจจะนำหน้าของไทยเราไป ไม่ว่าจะเป็น การใช้ โปรแกรม AI 3D ต่างๆมาช่วยในงานทันตกรรมรากฟันเทียม เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการรักษาให้กับผู้ป่วย ถือว่าได้มาเรียนรู้อย่างหนำใจ เพราะที่ Tufts เป็น Dental School ใหญ่อันดับ 2 ของทั้งสหรัฐอเมริกา ทำให้เรามีอุปกรณ์ครบครัน ไม่ว่าอยากจะใช้เครื่องมือชิ้นไหนๆ ที่นี่ก็มีพร้อมให้เราได้ใช้ ครบถ้วนจริงๆค่ะ

*สภาพแวดล้อมในการเรียนเป็นอย่างไรบ้าง ไม่ว่าจะเป็นผู้คนรอบข้าง มีการปรับตัวอย่างไรบ้างกับสภาพภูมิอากาศและความเป็นอยู่

การเรียนที่ต่างประเทศ ต้องใช้ภาษาอังกฤษเป็นหลักค่ะ เพื่อนๆ เจ้าหน้าที่ รวมถึงผู้ป่วยที่ได้ให้การรักษา มีความหลากหลาย มาจากนานาประเทศ เมืองบอสตันเป็นเมืองที่มีผู้คนทั้งคนอเมริกาเอง หรือคนจากทั่วทุกมุมโลก ปรางไม่เคยรู้สึกว่า เป็นคนแปลกหน้าของเมืองนี้เลยค่ะ ความหลากหลายของเชื้อชาติ ช่วยให้ปรางปรับตัวเข้ากับเมืองนี้ได้อย่างง่ายมากขึ้น รวมถึงผู้คนเป็นมิตรมากๆเลยค่ะ สมมุติปรางเดินสวนกับคนที่นี่ เขาก็จะพูดทักทายกันง่ายๆสั้นๆตลอดด้วยนะคะ เป็นวัฒนธรรมที่เปิดกว้าง ต้อนรับ และไม่มีการเหยียดเชื้อชาติเลยค่ะ
เรื่องอากาศเป็นเรื่องใหญ่ที่สุดของการย้ายมาอยู่เมืองบอสตันค่ะ
บอสตันเริ่มหน้าร้อนช่วง พฤษภาคม ถึง กันยายน ประมาณแค่ 6 เดือน พอเข้าตุลาคมจะเป็นฤดูใบไม้เปลี่ยนสี (Fall or Autumn) ชอบช่วงนี้มากค่ะ เมืองทั้งเมืองเปลี่ยนเป็นสีแดง ส้ม เหลือง อากาศดีเหมือนเดินไปไหนก็อยู่ในตู้เย็น สบายๆตลอดเวลา หลังจากช่วงสั้นๆ 1 เดือนของใบไม้เปลี่ยนสีจะเข้าสู่หน้าหนาวที่ยาวนานมาก ถึง เมษายน ในปีถัดไป ซึ่งหน้าหนาว จะหนาวมากๆ อุณหภูมิลดลงไปถึง -30 องศาเซลเซียส ช่วงหน้าหนาว ผู้คนจะอาศัยอยู่ในบ้าน และออกมาทำกิจกรรมหน้าหนาว เช่น สกี สโนว์บอร์ด กัน ถือเป็นโอกาสที่ดีที่ได้ฝึกฝนกีฬาหน้าหนาวไปในตัวด้วยค่ะ ประทับใจ และสนุกมากๆ ถ้าไม่ได้มาอยู่ที่ดินแดนแห่งความหนาวเย็น ก็อาจจะไม่มีโอกาสได้ฝึกเล่นกีฬาประเภทนี้ค่ะ ต้องใช้เวลาและความอดทนอย่างมาก กว่าจะก้าวสู่เลเวลที่เล่นสกีได้แบบไม่ต้องกังวล ที่เราจะดูแลตัวเองลงมาจากยอดเขาได้ ถ้าพูดถึงสกี กับ สโนว์บอร์ด อาจจะมีเรื่องเล่าได้อีกหนึ่งมหากาพย์เลยค่ะ 555+ พอเข้าเมษายนจะเป็น ฤดูใบไม้ผลิ (Spring Season) เป็นอีกช่วงสั้นๆของปี ที่ประทับใจมาก ดอกไม้ทยอยเบ่งบานกันทั่ว ๆเมือง เดินไปมุมไหนของบอสตันก็จะเห็นสีสันสวยงามเต็มไปหมดเลยค่ะ ปรางชอบฤดูนี้มาก มีความสุขสุดๆ แต่ปัญหาที่คนที่นี่เป็นกันเยอะ คือ อาการแพ้เกสรดอกไม้ค่ะ
ต้องขอเพิ่มเติมว่า บอสตันเป็น Walkable city ที่เราจะสามารถเดินไปได้ทุกที่ เมืองมีประวัติศาสตร์กับอังกฤษ จึงมีสถาปัตยกรรมยุโรปสวยงามทั่วทั้งบอสตัน จะเจอเพื่อนร่วมเดินไปกับเราทุกทิศทุกทาง เป็นเมืองแห่งการศึกษาระดับโลก ประกอบไปด้วยมหาวิทยาลัยชื่อดังมากมาย ไม่ว่าจะเป็น Harvard University, Boston University (BU), Massachusetts Institute of Technology (MIT), Tufts University, Northeastern University, Berklee Collage of Music, Boston College, Emerson College, Suffolk University, MGH Institute of Health, Babson College and etc. ใครที่สนใจมาศึกษาต่อต่างประเทศ ปรางอยากแนะนำ ให้ลองพิจารณามาบอสตัน จากใจค่ะ ปรางรักบอสตันมากกกกกกกกกกก

*กำลังใจในการเรียนของหมอคืออะไรคะ

กำลังใจในการเรียนเกิดจากความชอบในสิ่งที่เรารัก หรือตามคติประจำตัวที่ว่า “ยิ่งเรียนยิ่งมีความฝัน” แรงผลักดันที่ช่วยให้ปรางต่อสู้ในแต่ละวัน เพราะ ความชอบ ความหลงใหลในสิ่งที่ปรางทำค่ะ ทำให้ทุกๆวันปรางมีความสุขในการไปเรียน ไปรักษาผู้ป่วย และตั้งใจที่จะขวนขวายความรู้ใหม่ๆ มาพัฒนา ประยุกต์ใช้กับการรักษาในแต่ละเคสที่แตกต่างกันออกไป และอีกหนึ่งเหตุผลเลยคือเพื่อนที่ร่วมเดินทางไปพร้อมๆกันกับปรางบนขบวนรถไฟสาย Implant Dentistry Residency Program ขอขอบพระคุณ ทันตแพทย์หญิงแพรววนิต อัศวหน้าเมือง หรือหมอแพม กับประสบการณ์ที่ปรางได้เรียนรู้ไปด้วยกัน ช่วยเหลือกันในเคสผ่าตัด เคสรากเทียมทั้งปาก เคสยากๆซับซ้อนทั้งหลาย ทำให้การเรียนสนุกขึ้นเพราะทีมที่ดี ทีมคุณภาพค่ะ อีกทั้งการเรียนรู้ Digital Dentistry ที่ใหม่มากๆ ปรางกับหมอแพมมักจะใช้เวลาหลังจบคลินิกไปฝังตัวอยู่ห้อง Digital Lab เพื่อเรียนรู้ Software มากมายที่นำมาใช้ในงานทันตกรรม ฝึกใช้ทุกๆเคสตั้งแต่ เคสที่ผู้ป่วยต้องทดแทนฟัน 1 ซี่ จนกระทั่งเคสที่ผู้ป่วยต้องได้รับฟันชุดใหม่ทั้งช่องปากค่ะ เรียกได้ว่า Digital Dentistry เป็นส่วนใหญ่ที่ได้มาใช้เทคโนโลยีใหม่ๆ ของอเมริกา มาอัพเดตสุดๆระดับโลกก็ว่าได้เลยค่ะ

*งานอดิเรก

ขอแบ่งงานอดิเรกเป็นช่วงหน้าร้อน กับ หน้าหนาว นะคะ ช่วงหน้าร้อน รวมกับหน้าใบไม้เปลี่ยนสี และ ใบไม้ผลิ ที่มีประมาณ 6-8 เดือน จะชอบปั่นจักรยานไปรอบๆเมือง ถ้ามีนัด หรือต้องเดินทางไปที่ไหน ก็จะเลือกปั่นจักรยานไปค่ะ เมืองบอสตันแบ่งถนนให้มีเลนจักรยานทุกๆที่ คนที่เป็น Bostonian หลายๆคนก็เลือกใช้จักรยานเป็นพาหนะประจำวันตัวทีเดียวเลยค่ะ นอกจากนั้น จะชอบนัดเจอเพื่อนๆ เพื่อเล่น Boardgame กัน ทั้งเพื่อนต่างชาติ เพื่อนคนไทย หรือแม้แต่คนไข้ที่เราให้การรักษาเขา มักจะชวนไปไหนมาไหนกันช่วงวันเสาร์อาทิตย์ค่ะ เป็นเอกลักษณ์ของวัฒนธรรมตะวันตกอย่างนึง ที่วันเสาร์อาทิตย์ คนส่วนใหญ่จะหยุด และมีเวลานัดพบเจอกัน สังสรรค์ พูดคุยกันค่ะ ได้มีโอกาสไปเที่ยวบ้านหลายๆคนที่อาศัยที่นี่ ก็ได้เปิดโลก ทั้งการออกแบบบ้าน ที่ต้องทนหิมะ ทนความหนาว รับลมหน้าร้อนและเห็นสไตล์การออกแบบบ้านฝรั่ง มีความน่ารัก ตะมุตะมิ ในแบบของเขาค่ะ
ช่วงหน้าหนาว มักจะออกไปกอบโกยหิมะกันค่ะ ไม่ว่าจะไปเล่นสกี หรือ สโนว์บอร์ด ได้เจอเพื่อนๆใหม่จากการไปออกทริปสกี ช่วงคริสมาสต์ ไปจนถึงปีใหม่ จะชอบออกไปชมเมือง ดูผู้คนออกมาฉลองวันสำคัญของที่นี่ บ้านเมืองจะถูกตกแต่งไปด้วยต้นคริสมาสต์ แสงไฟระยิบระยับทั่วๆเมืองบอสตัน บอกเลยว่าปรางรู้สึกว่าหลุดออกมาอยู่อีกโลกนึงเลยค่ะ แม้อากาศจะหนาวเย็น แต่บรรยากาศนี่อบอุ่นสุดๆไปเลยค่ะ

*แผนในอนาคต

ปรางอยากนำความรู้และประสบการณ์ที่เรียนมา มาใช้รักษาผู้ป่วยคนไทยของเราค่ะ งานรากฟันเทียม มีเทคนิค มีนวัตกรรมใหม่ๆที่จะเข้ามาช่วยทั้งการวางแผนการรักษา เพิ่งประสบการณ์เชิงบวกให้กับผู้ป่วย พัฒนาผลการรักษาให้ยืนนานและเพิ่มผลดีต่อสุขภาพองค์รวมของผู้ป่วย

*ผลงานและความภูมิใจในความเป็นมหิดล

ปรางถูกคัดเลือกเป็นตัวแทนขึ้นพูดบนเวทีระดับโลก ที่งาน Academy of Osseointegration 2024 จัดขึ้นที่เมือง Charlotte, North Carolina, USA รู้สึกภาคภูมิใจมากๆ ปรางตั้งใจแนะนำตัวให้ทุกคนรู้ว่า ปรางมาจากประเทศไทย ใส่ธงชาติไทยเด่นเป็นสง่ากันไปเลยค่ะ และปรางขอโอกาสบนเวทีแสดงความเป็นมหิดลอย่างเต็มตัวด้วยค่ะ ไม่เคยคิดว่าสักครั้งหนึ่งในชีวิต ปรางจะได้มีโอกาสขึ้นพูดบนเวทีสำคัญระดับนานาชาติท่ามกลางผู้เข้าฟังที่เดินทางมาจากทั่วโลก นอกจากนั้น งานวิจัยที่ปรางและหมอแพมทำ ได้รับคัดเลือกเป็น 2 โปรเจคใหญ่ ที่คาดว่าจะมาส่งผลให้ทฤษฎีการรักษารากฟันเทียมมีความเปลี่ยนแปลงไปอีก จากผลงานการวิจัยของเรา ทั้ง 2 คนค่ะ ฝากรอติดตามผลงานของเรากันด้วยนะคะ

*ฝากบอกอะไรหน่อยไหมคะ

อยากขอบพระคุณ คณะทันตแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล ที่สร้างทันตแพทย์คุณภาพ ทำให้ประเทศไทยได้ตกเป็นที่ขึ้นชื่อในวงการทันตกรรมระดับโลก
ขอบพระคุณที่ส่งเสริมให้เด็กทุกคนมีโอกาส มีประสบการณ์ทุกๆด้าน ทำให้เรามีความพร้อมในการไปสู่สายตาโลกได้จริงๆค่ะ ทำในสิ่งที่รัก และรักในสิ่งที่ทำกันนะคะ #ยิ่งเรียนยิ่งมีความฝัน

ขอบพระคุณที่ติดตามอ่านจนมาถึงบรรทัดสุดท้าย ปรางยังมีเรื่องราวที่อยากเล่าให้ฟังมากมายเลยค่ะ
การได้มาเรียนต่อเฉพาะทางที่บอสตัน เป็นช่วงเวลาที่ดีมากๆที่สุดในชีวิตเลย ปรางจะรักและคิดถึงบอสตันตลอดไป

ทันตแพทย์หญิง ปิยรัศมิ์ ศิริรัตนากูล
Dr.Piyarat Sirirattanagool, DDS, MSc.

ใครอยากมาปรึกษาการสมัครเรียนต่อ หรือ การย้ายไปเรียนต่อ ทักทายมาคุยกันได้นะคะ
Instagram: @prang_piyarat
Youtube Channel: Prang Piyarat Dentist