จุดเริ่มต้นของการเข้ามาศึกษาในหลักสูตรเทคโนโลยีทันตกรรม
จุดเริ่มต้นจริงๆคือ ที่บ้านผมทำงานเกี่ยวกับแลปทันตกรรม โดยคุณพ่อผมเองก็เป็นช่างทันตกรรมครับ ทำให้ผมได้เห็นการทำงานตั้งแต่ยังเด็ก วิ่งเล่นในแลป ได้คลุกคลีกับชิ้นงาน พนักงาน รวมถึงทันตแพทย์ที่เข้ามาเยี่ยมชมแลป เมื่อผมโตขึ้น จึงเริ่มมีความคิดตอนเรียนจบปริญญาตรีว่า “ถ้าเรายังไม่มีอะไรที่ชอบจริงๆ เราจะมาลองทำในด้านนี้ดีไหม?” เพราะจริงๆงานช่างทันตกรรมเป็นงานที่ผสมผสานระหว่าง วิทยาศาสตร์ และศิลปะ ซึ่งมันเป็นวิชาที่เราชอบและทำได้ดีอยู่แล้ว นี่จึงเป็นจุดเริ่มต้นในการมองหาที่เรียนของหลักสูตรเทคโนโลยีช่างทันตกรรม คุณพ่อของผมเองได้สนับสนุนให้ผมเข้ามาเรียนที่มหาวิทยาลัยมหิดล มุมมองในตอนนั้นคือ เราจะได้มุมมองของงานช่างทันตกรรมที่กว้างขึ้น อย่างที่แลปของผมจะเน้นเป็นชิ้นงานติดแน่นเกือบทั้งหมด แต่ว่าที่มหิดลสอนสิ่งที่หลากหลาย ทำให้ผมรู้สึกเหมือนเราได้อ่านหนังสือที่หลากหลายเกี่ยวกับด้านช่างทันตกรรมครับ
ความผูกพันและความประทับใจในช่วงที่กำลังศึกษา
ผมได้อะไรเยอะมากๆ จากที่นี่ครับ มากกว่าที่ผมคาดคิดในตอนแรกเสียอีก การมีเพื่อนๆอยู่ก็เป็นส่วนที่สำคัญต่อผมเพราะในการจะทำงาน 1 งาน จำเป็นต้องใช้เวลาในการทำ ยิ่งถ้าเป็นบุคคลที่ไม่เคยทำมาก่อน ยิ่งต้องใส่ความพยายามและความอดทน เพื่อที่จะทำเสร็จในเวลาจะทำได้ยากและท้าทาย เลยทำให้ต้องทำงานล่วงเวลากันบ่อยๆครับ แต่ไม่ได้มีเพียงความเหนื่อยนะครับ มันเป็นช่วงเวลาที่มีความสนุกและมีความหมาย เปรียบกับตอนที่เรียนมหาลัยช่วงปริญญาตรี ปกติเราอาจจะเรียนกับเพื่อนบางวิชาเท่านั้น แต่ที่นี่เราจะเรียนเหมือนกัน อยู่ด้วยกันตลอดทั้งวัน ตั้งแต่ 8 โมงถึง 2 ทุ่ม ทำให้เกิดความผูกพัน ไม่ทิ้งกันในการทำงาน ไปไหนไปกัน ทำให้ผมรู้สึกประทับใจ รู้สึกมีความอบอุ่นมากๆเลยครับ และตลอดเวลาที่เรียนเราสามารถถามและขอคำชี้แนะจากอาจารย์ได้ หลายครั้งผมก็พบว่าคำตอบไม่ได้มีเพียงแค่หนึ่งคำตอบ แต่อาจมีมากกว่านั้นครับ อาจารย์ทุกท่านเป็นมิตรมากๆ ยินดีให้คำปรึกษาในทุกๆเรื่องด้วยความเต็มใจ ทั้งเรื่องงาน ชีวิตในมหาวิทยาลัย แนวทางศึกษาต่อด้วยครับ
หลังจากเรียนจบแล้วมีต่อยอดเรียนอะไรเพิ่มเติมไหมคะ
ตั้งแต่ก่อนเรียน ระหว่างเรียน ผมก็ได้มองๆที่ศึกษาต่อไว้หลายที่เลยครับ ก่อนจะเข้ามาเรียนหลักสูตรที่มหาวิทยาลัยมหิดล ผมได้เรียนถ่ายรูปในช่องปาก ที่ประเทศมาเลเซีย เป็นคอร์สของทันตแพทย์ท่านหนึ่งชื่อ Carlos Ayala ส่วนระหว่างเรียนที่มหาวิทยาลัยมหิดลก็ไปเรียนคอร์สต่างๆอีก เช่นของ Oliver Brix , Peter Pizzi, Edwin Z, Sasha Hein, Johan Figuara, etc .โดยใช้เวลาว่างในวันเสาร์ อาทิตย์ เดินทางไปเรียนในวันเสาร์ กลับมาภายในวันอาทิตย์ วันจันทร์มาเรียนต่อที่มหาวิทยาลัยมหิดลครับ ทั้งในเนื้อหาของช่างทันตกรรมซะเป็นส่วนใหญ่ แต่ก็จะมีของทันตแพทย์ปนมาด้วยบ้างครับ จนกระทั่งผมเรียนจบ ก็ได้มีโอกาสไปศึกษาเพิ่มเติมที่ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ เป็นคอร์สเรียนเกี่ยวกับทันตกรรม ดิจิตอล หลังจากนั้นผมจึงเริ่มเข้ามาจับงานที่แลปบ้าง ได้นำความรู้ที่ร่ำเรียน มาใช้กับที่แลป ทั้งความรู้ที่ได้จากมหาวิทยาลัยมหิดล และที่ต่างๆ มาพัฒนาตนเองต่อไปด้วยครับ
ได้แวะเวียนเข้ามาที่คณะฯ บ้างไหม
เข้ามาครับ เริ่มจากการมาเป็นล่ามแปลภาษาให้กับช่างทันตกรรมชาวต่างชาติชื่อ Szabi Hant ครับ พอดีว่าเป็นเรื่องที่เคยช่วยคุณพ่อสอน แล้วเราก็มีความเข้าใจพอที่จะช่วยขยายความหรืออธิบายให้น้องๆฟังได้ แล้วหลังจากนั้นก็มีเข้ามาอีกเรื่อยๆครับ แต่ไม่ใช่ในฐานะนักศึกษา หรือรุ่นพี่ “แต่ผมได้กลับมาในฐานะอาจารย์พิเศษ จนตอนได้เป็นอาจารย์พิเศษสอน 2 วิชาแล้วครับ” ผมรู้สึกยินดีมากที่ได้ความไว้วางใจและได้มีโอกาสแบ่งปัน ถ่ายทอดประสบการณ์ ผลงาน ให้ความรู้แก่รุ่นน้องและผู้ที่สนใจ เนื่องจากเราเป็นรุ่นพี่ ที่จบที่นี่เหมือนกัน ยิ่งทำให้ผมรู้สึกยินดีมากเป็นพิเศษเลยครับ เหมือนเห็นภาพตัวเรากับเพื่อนๆในอดีต
“ผมอยากขอบคุณ โรงเรียนเทคโนโลยีทันตกรรม คณะทันตแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล ที่เป็นสถานที่แห่งการเรียนรู้ เปิดมุมมอง ความรู้ใหม่ๆในหลายๆด้าน ทำให้ผมได้เห็นมุมมองของงานทันตกรรมด้านอื่นๆ ที่นอกเหนือที่เราเคยเห็นเคยรู้มา แล้วยังได้มิตรภาพดีๆที่ไม่ได้สิ้นสุดเพียงในห้องเรียนอีกด้วยครับ”
เลขที่ 888 ม.6 ถ.บรมราชชนนี ต.ศาลายา อ.พุทธมณฑล จ.นครปฐม 73170
เบอร์ตรง 0-2849-6600