Generic selectors
Exact matches only
Search in title
Search in content
Post Type Selectors

แผลในปาก • ปวดฟัน • หน้าบวม — ใช้ยาอย่างไรให้ถูกต้อง? ดูแลสุขภาพช่องปากอย่างปลอดภัย รู้ก่อน ใช้ยาเป็น ยิ่งหายเร็ว

การดูแลสุขภาพช่องปากทั่วไป

แผลในปาก • ปวดฟัน • หน้าบวม — ใช้ยาอย่างไรให้ถูกต้อง? ดูแลสุขภาพช่องปากอย่างปลอดภัย รู้ก่อน ใช้ยาเป็น ยิ่งหายเร็ว

โครงการพัฒนาแอพพลิเคชั่นความรู้สุขภาพช่องปากบนโทรศัพท์สมาร์ทโฟน

ผู้ป่วยเบาหวานกับการรักษาทางทันตกรรม

ผู้ป่วยเบาหวานกับการรักษาทางทันตกรรม

ความสำคัญของน้ำลาย

ความสำคัญของน้ำลาย

การแปรงฟันลูกแต่ละช่วงวัย

การแปรงฟันลูกแต่ละช่วงวัย

แปรงสีฟันที่ถูกต้อง

แปรงสีฟันที่ถูกต้อง

ฟันสะอาดยิ่งขึ้น เมื่อใช้ไหมขัดฟันอย่างถูกวิธี

7 อาการเหงือกบวมที่ควรสังเกต

ฟลูออไรด์…ใช้อย่างไร ไม่อันตราย

การดูแลสุขภาพช่องปากทั่วไป

ฟลูออไรด์…ใช้อย่างไร ไม่อันตราย

รวมอุปกรณ์ช่วยทำความสะอาดฟัน

การดูแลสุขภาพช่องปากทั่วไป

MU DENT faculty of dentistry

รวมอุปกรณ์ช่วยทำความสะอาดฟัน

อ.ทพญ.วิชุรัตน์ สกุลภาพทอง

ภาควิชาเวชศาสตร์ช่องปากและปริทันตวิทยา

อุปกรณ์ทำความสะอาดฟันมีอะไรบ้าง

อุปกรณ์ทำความสะอาดช่องปาก แบ่งได้ 2 ประเภท คือ

 

อุปกรณ์หลักในการทำความสะอาดช่องปาก หมายถึง อุปกรณ์ที่เราทุกคนต้องใช้เป็นหลัก จะขาดอย่างใดอย่างหนึ่งไปไม่ได้ ได้แก่ แปรงสีฟัน และ ไหมขัดฟัน

 

อุปกรณ์เสริมในการทำความสะอาดช่องปาก หมายถึง อุปกรณ์ช่วยเสริมในการทำความสะอาดช่องปากให้สะอาดยิ่งขึ้น ในกรณีที่มีฟันบางตำแหน่งที่ยากในการเข้าถึง อาจไม่จำเป็นต้องใช้ทุกคน ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับสภาวะช่องปากของแต่ละคน อุปกรณ์เสริมเหล่านี้ ได้แก่ แปรงซอกฟัน แปรงกระจุก ซูเปอร์ฟลอสส์ เข็มร้อยไหมขัดฟัน เป็นต้น

 

1. แปรงสีฟัน (Toothbrush)
แปรงสีฟันเป็นอุปกรณ์ที่ใช้ทำความสะอาดฟันและลิ้น มี 2 ประเภท หลักๆ คือ แปรงสีฟันธรรมดาและแปรงสีฟันไฟฟ้า

จะเลือกแปรงสีฟันแบบใดจึงจะดี
เลือกแปรงสีฟันที่มีขนาดและรูปร่างของแปรงพอเหมาะกับช่องปาก สามารถทำความสะอาดเข้าถึงได้ทุกบริเวณทั่วช่องปาก ด้ามแปรงตรง จับถนัดมือ ขนแปรงทำจากไนลอน ชนิดนุ่มหน้าตัดตรง ขนแปรงแต่ละเส้นมีการมนปลายเพื่อไม่ให้ปลายคมขรุขระ ทำร้ายเหงือกและฟัน และไม่ว่าแปรงสีฟันธรรมดาหรือแปรงสีฟันไฟฟ้าก็สามารถทำความสะอาดฟันได้อย่างมีประสิทธิภาพเช่นเดียวกันหากใช้อย่างถูกวิธี เราควรแปรงฟันอย่างน้อยวันละ 2 ครั้ง ด้วยยาสีฟันที่มีฟลูออไรด์เพื่อช่วยป้องกันฟันผุ อีกทั้งควรเปลี่ยนแปรงทุก 3 – 4 เดือน หรือเมื่อขนแปรงเริ่มบาน

 

2. ไหมขัดฟัน (Dental floss)
ไหมขัดฟัน เป็นอุปกรณ์ที่ใช้ทำความสะอาดบริเวณซอกฟันได้ดีที่สุด พึงระลึกไว้เสมอว่า การแปรงฟันอย่างเดียวไม่สามารถทำความสะอาดซอกฟันได้หมดจด จะต้องใช้ไหมขัดฟันร่วมด้วย โดยใช้ไหมขัดฟันหลังจากแปรงฟันเสร็จแล้วทุกครั้ง ไหมขัดฟันเหมาะสำหรับผู้ที่มีช่องว่างระหว่างฟันแคบ แต่หากในผู้ที่มีช่องว่างระหว่างฟันกว้างหรือฟันอยู่ห่างกันมาก อาจต้องใช้อุปกรณ์ช่วยทำความสะอาดซอกฟันอื่นๆ ร่วมด้วย

3. ด้ามยึดไหมขัดฟัน (Floss holder )
ด้ามยึดไหมขัดฟัน เป็นอุปกรณ์ช่วยยึดไหมขัดฟันทดแทนการใช้นิ้วมือควบคุมไหมขัดฟันโดยตรง เหมาะสำหรับผู้ที่ไม่ถนัดการใช้ไหมขัดฟันทั่วไป ผู้ที่มีปัญหาในการควบคุมนิ้วมือ หรือผู้ที่อ้าปากได้จำกัด ด้ามนี้จะช่วยให้ไม่ต้องใช้นิ้วเข้าไปในปากเพื่อควบคุมไหมขัดฟัน

4. แปรงซอกฟัน (Interdental bush or interproximal brush)
แปรงซอกฟัน เป็นอุปกรณ์ช่วยทำความสะอาดซอกฟันในผู้ที่มีช่องว่างระหว่างฟันเกิดขึ้น เนื่องจากเหงือกร่นหรือบริเวณซอกฟันมีส่วนคอด นอกจากนี้ยังใช้ทำความสะอาดใต้เครื่องมือจัดฟัน ฟันเทียมแบบติดแน่น หรือรากฟันเทียม (Dental implant) แปรงซอกฟันมีหลายขนาด ให้เลือกที่ขนาดใหญ่กว่าช่องว่างระหว่างฟันเล็กน้อยเพื่อการทำความสะอาดได้อย่างมีประสิทธิภาพ

5. แปรงกระจุก (End tuff brush or single tuff brush)
แปรงกระจุก เหมาะสำหรับฟันที่อยู่โดดเดี่ยว ไม่มีฟันประชิด ซึ่งเราต้องการทำความสะอาดโดยรอบซี่ฟัน หรือใช้ทำความสะอาดฟันซี่ท้ายสุดของแถว ฟันที่เกและเรียงซ้อนกัน ทำความสะอาดรอบรากเทียม หรืออาจใช้ทำความสะอาดบริเวณใต้ลวดจัดฟันก็ได้

6. เข็มร้อยไหมขัดฟัน (Floss threader)
เข็มร้อยไหมขัดฟันทำจากพลาสติก ด้านหนึ่งเป็นห่วงสำหรับร้อยไหมขัดฟัน อีกด้านหนึ่งมีลักษณะเป็นปลายแหลมเพื่อช่วยนำไหมขัดฟันเข้าทำความสะอาดโดยเฉพาะบริเวณใต้สะพานฟัน ฟันที่เชื่อมกัน (Splinted teeth) หรือซอกฟันที่ติดเครื่องมือจัดฟัน

7. ซูเปอร์ฟลอสส์ (Super floss)
ไหมขัดฟันชนิดนี้ประกอบด้วย 3 ส่วน คือ ก้านพลาสติก ส่วนฟองน้ำ และส่วนไหมขัดฟันปกติ ซูเปอร์ฟลอสส์สามารถใช้ทำความสะอาดโดยใช้ส่วนก้านพลาสติกร้อยใต้สะพานฟัน ฟันที่เชื่อมกัน หรือซอกฟันที่ติดเครื่องมือจัดฟันได้เช่นเดียวกับการใช้ไหมขัดฟันร่วมกับเข็มร้อยไหมขัดฟัน

การดูแลสุขภาพช่องปากหญิงตั้งครรภ์

การดูแลสุขภาพช่องปากหญิงตั้งครรภ์

เมื่ออายุครรภ์ 4 – 6 เดือน 
ควรไปพบทันตแพทย์เพื่อตรวจฟันและทำความสะอาดช่องปาก ไม่ควรรอจนกระทั่งมีอาการ

 

แปรงฟันให้สะอาด 
อย่างน้อย วันละ 2 ครั้ง ด้วยยาสีฟันผสมฟลูออไรด์ นาน 2 นาที ร่วมกับการทำความสะอาดซอกฟันทุกวัน

 

หลังอาเจียนจากการแพ้ท้องหรือทานอาหารเปรี้ยว 
ควรบ้วนปากด้วยน้ำเปล่าทุกครั้ง

 

หลีกเลี่ยง 
การกินอาหารที่มีน้ำตาลสูง เช่น น้ำอัดลม น้ำหวาน นมเปรี้ยว

 

เมื่อสุขภาพช่องปากไม่ดีขณะตั้งครรภ์จะส่งผลต่อลูกอย่างไร

 

ภาวะโรคเหงือกอักเสบและโรคปริทันต์อักเสบ

เกิดจากการดูแลทำความสะอาดช่องปากไม่เพียงพอ อาจจะทำให้เกิดภาวะ “คลอดก่อนกำหนด” หรือ “น้ำหนักตัวแรกคลอดต่ำกว่าเกณฑ์” ได้ ซึ่งจะส่งผลให้เกิดปัญหาต่อลูกน้อยตามมา เช่น มีอัตราการเสียชีวิตแรกคลอดและอัตราการเจ็บป่วยสูง มีโอกาสที่ทารกจะมีความผิดปกติแต่กำเนิด ได้แก่ ความผิดปกติของระบบหายใจ สมอง และพัฒนาการ

 

การกินอาหารที่มีน้ำตาลสูง

– มารดาเป็นเบาหวานขณะตั้งครรภ์ มีโอกาสเป็นเบาหวานในอนาคตและมีภาวะแทรกซ้อนทั้งขณะตั้งครรภ์และจากการคลอด เช่น ครรภ์เป็นพิษ รกลอกตัวก่อนกำหนด
– ลูกมีโอกาสน้ำหนักแรกคลอดมากและภาวะหายใจเร็วในทารกแรกคลอดได้

ผศ.ทพญ. กันยวัชร์ รัตนสุวรรณ

ภาควิชาเวชศาสตร์ช่องปากและปริทันตวิทยา