the-idol-mu-dent-6-1

แนะนำตัวเอง
ผม ผศ. ดร. นพ.ทพ.ณัฐพงศ์ สิรินทวัฒน์ เป็นอาจารย์ประจำภาควิชาศัลยศาสตร์ช่องปากและแม็กซิลโลเฟเชียล มหาวิทยาลัยมหิดลครับ

 

ผมจบทันตแพทยศาสตร์บัณฑิต (เกียรตินิยม) ในปี2546 (รุ่น 30) จากมหาวิทยาลัยมหิดล บรรจุเป็นอาจารย์ภาควิชาทันตกรรมบดเคี้ยว 1 ปี จากนั้นได้เข้าศึกษาต่อและจบหลักสูตรประกาศนียบัตรบัณฑิต ศัลยศาสตร์ช่องปาก และ แม็กซิลโลเฟเชียล ในปี2548 ต่อมาได้รับการบรรจุเป็นอาจารย์ภาควิชาศัลยศาสตร์ช่องปากและแม็กซิลโลเฟเชียล หลังจากนั้นจึงได้ลาศึกษาต่อที่คณะแพทยศาสตร์ ศิริราชพยาบาลจนจบแพทยศาสตร์บัณฑิต (เกียรตินิยม) ในปี2553 (รุ่น 115) และได้รับทุนจากคณะทันตแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล ไปศึกษาต่อปริญญาเอกที่ประเทศเยอรมนีครับ

 

อธิบายถึงทุน สาขาวิชาที่เรียน เรียนที่ไหน
ทุนที่ผมได้รับ ใช้หลักเกณฑ์เดียวกับทุน กพ.ครับ โดยได้รับเงินทุนเป็นรายเดือน เดือนละประมาณ 980 ยูโร และ จะมีค่าหนังสือหรืออุปกรณ์ต่างๆอีกปีละ 2 ครั้ง ครั้งละประมาณ 1000 ยูโร รวมเป็นระยะเวลา 5 ปี

สาขาที่ผมเลือกศึกษาคือ ปริญญาเอกสาขา ศัลยศาสตร์ช่องปากและแม็กซิลโลเฟเชียล โดยศึกษาที่ คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัย Leipzig ประเทศเยอรมนี ในขณะเดียวกันผมก็ได้เลือกเข้าอบรมในหลักสูตรแพทย์ประจำบ้าน สาขาศัลยศาสตร์ช่องปากและแม็กซิลโลเฟเชียล และหลักสูตรทันตแพทย์ประจำบ้านสาขาศัลยศาสตร์ช่องปาก และ รากเทียม University Hospital Leipzig ควบคู่ไปพร้อมกัน

 

ต้องปรับตัวมากไหม

ในช่วงปีแรกๆต้องใช้เวลาปรับตัวค่อนข้างมากครับ โดยเฉพาะอย่างยิ่งคือเรื่องภาษาเพราะประเทศเยอรมันใช้ภาษาเยอรมันเป็นหลักในการสื่อสาร แม้ว่าผมได้เรียนภาษาเยอรมันพื้นฐาน(ระดับB1)มาแล้วจากไทย แต่เมื่อไปถึงจริง ๆ ก็ต้องไปเรียนภาษาและสอบใหม่ที่นั่นอีกที เพราะว่าเราจำเป็นต้องใช้ภาษาได้ในระดับที่ดีมาก เพื่อสามารถที่จะสื่อสารกับคนไข้ เพื่อนร่วมงาน ติดต่อราชการและทำการสอบในหลายๆขั้นตอนระหว่างเรียนได้ นอกจากนี้ก็เป็นเรื่องของวัฒนธรรม สังคม และสภาพอากาศที่แตกต่างจากทางบ้านเรา ซึ่งต้องค่อยๆเรียนรู้ อดทน และปรับตัวกันไปครับ การใช้ชีวิตคนเดียวในต่างแดนทำให้ผมได้ประสบการณ์หลายๆด้าน ทั้งความสำเร็จ ความล้มเหลว ก็ทำให้เราโตขึ้น ใจเย็นและอดทนมากขึ้นครับ

 

 

ใช้เวลาในการเรียนกี่ปี

ใช้เวลาเรียนทั้งหมด 6 ปี 3 เดือนครับ (โดยจะเกินระยะเวลาที่ขอทุนเอาไว้นะครับ) โดยจะแบ่งคร่าวๆได้ดังนี้

 

– ใช้เวลาเรียนภาษาเยอรมัน สอบใบประกอบโรคศิลป์วิชาชีพแพทย์และใบประกอบโรคศิลป์วิชาชีพทันตแพทย์ ของเยอรมัน(ซึ่งเป็นสิ่งจำเป็นในการทำงานวิจัยเกี่ยวกับคน หรือทำการรักษาคนประเทศเยอรมัน) นานประมาณ 1 ปี

 

– เรียนปริญญาเอกศัลยศาสตร์ช่องปากและแม็กซิลโลเฟเชียล ควบคู่ไปกับการอบรมแพทย์ประจำบ้านในสาขาศัลยศาสตร์ช่องปากและแม็กซิลโลเฟเชียล (German Board of Oral and Maxillofacial Surgery(Facharzt für Mund- Kiefer- Gesichtschirurgie)) และ ทันตแพทย์ประจำบ้านสาขาศัลยศาสตร์ช่องปากและรากเทียม (German Board of Oral Surgery(Fachzahnarzt für Oral Chirurgie)) ประมาณ 5ปี
เหตุการณ์ประทับใจ

 

ตลอดระยะเวลา 6ปีที่เยอรมัน มีเหตุการณ์ประทับใจเกิดขึ้นมากมาย จะขอเล่าเป็นบางเหตุการณ์นะครับ

-วันที่สอบป้องกันวิทยานิพนธ์ของการเรียนปริญญาเอก professor, ผู้ดูแลงานวิจัย และเพื่อนๆในแผนกพากันเข้ามาฟังและให้กำลังใจ หลังจากนำเสนอเสร็จ ทางคณะกรรมการก็จะแจ้งผลสอบในทันที ในตอนนั้น professor ได้เดินมาจับมือแล้วพูดว่า ยินดีด้วยนะ คุณได้ใช้คำนำหน้าว่า ดร. อย่างเป็นทางการแล้วนะ และทุกคนในที่นั้นลุกขึ้นปรบมือแสดงความยินดีกับเรา

 

-วันที่ได้สอบวุฒิบัตร (German Board) เนื่องจากความยากไม่ใช่แค่การสอบเท่านั้น แต่รวมถึงขั้นตอนต่างๆในการขออนุญาตสอบ และเมื่อสอบเสร็จกรรมการคุมสอบทั้งสามท่านได้เดินเข้ามาจับมือ และพูดว่า คุณเป็นคนต่างชาติจากฝั่งเอเชียคนเดียวในรอบ15ปีนะที่สอบผ่านจากแคว้นนี้ หลังจากนั้นผมจึงได้รับโอกาสจาก professor ให้สอน resident , ได้ผ่าตัดเคสที่ยากและซับซ้อนมากขึ้น ซึ่งสิ่งเหล่านี้ต้องใช้ความพยายามและความอดทนอย่างมาก ดังนั้นวันที่ผมสอบจบได้และเป็นแพทย์เฉพาะทางอย่างเป็นทางการจึงเป็นอะไรที่พิเศษและภูมิใจมากครับ

 

-สุดท้ายเป็นเหตุการณ์ที่เพื่อนๆ ทั้งหมอ พยาบาลและอาจารย์ surprise จัดงานเลี้ยงส่งให้ครับ เพื่อนถึงกับขับรถบรรทุกเพื่อขนของที่ต้องใช้ในงานเลี้ยงมาเอง ส่วนของขวัญเป็นการ์ดที่มีรูปอาจารย์ เพื่อน และพยาบาล ซึ่งทุกคนในแผนกเขียนถึงผม

 

ในวันสุดท้ายของการทำงาน พวกเขายังได้บอกกับผมว่า คุณกลับมาที่นี่ได้ตลอดนะ แผนกเรายินดีต้อนรับคุณเสมอ ทำให้ผมรู้สึกว่า แม้เราเป็นคนต่างชาติคนเดียวที่นั่น แต่เราก็ได้รับการยอมรับ มิตรภาพ และน้ำใจอย่างมากมาย เหมือนผมเป็นส่วนหนึ่งในครอบครัวใหญ่ๆ ประทับใจมากๆครับ

 

ฝากทิ้งท้าย
การศึกษาต่อต่างประเทศทำให้เราได้เรียนรู้ประสบการณ์ใหม่ๆมากมาย ทั้งด้านวิชาความรู้ วัฒนธรรม และการใช้ชีวิต น้อง ๆ ที่สนใจสามารถหาทุนในสาขาที่เราสนใจซึ่งยังมีโอกาสอีกมากมายรออยู่นะครับ และถึงแม้การศึกษาต่อจะมีอุปสรรคและความยากลำบาก แต่ถ้าเรามีความตั้งใจจริง มีคนรอบข้างที่ดีคอยสนับสนุนเรา สุดท้ายจะสำเร็จและกลับมาพร้อมกับความภาคภูมิใจอย่างแน่นอนครับ

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *

clear formPost comment