-
แนะนำตัว
ชื่อ-นามสกุล : นศ.ทพ.ณัฐณิชา นาคเงินทอง
ชื่อเล่น ชื่อ นัท ค่ะ ปัจจุบันเป็นนักศึกษาทันตแพทย์ชั้นปีที่ 6 คณะทันตแแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล
-
ก่อนจะเข้ามาเรียนต้องผ่านเกณฑ์อะไรบ้าง?
ก่อนจะเป็น นศ.ทพ.ต้องสอบเข้าเป็น ระบบ กสพท.หรือระบบ admission ค่ะ โดยสอบเข้าโดยระบบ กสพท.ค่ะ เป็นการสอบ 7 วิชาสามัญ ได้แก่ คณิตศาสตร์ ฟิสิกส์ เคมี ชีววิทยา ภาษาอังกฤษ ภาษาไทย และสังคม ร่วมกับการสอบ ความถนัดแพทย์ค่ะ สำหรับทักษะพิเศษเกี่ยวกับการเป็นทันตแพทย์ยังไม่ต้องใช้การสอบเข้าค่ะ ถ้าเน้นทักษะไหน คงจะเน้นทักษะในเรื่องของการรับผิดชอบ ความขยัน ตั้งใจในการอ่านหนังสือ ในการเตรียมสอบเข้า เชื่อว่าถ้าน้องๆ มีการสอบเข้าคณะนี้ ก็ไม่เกินความสามารถค่ะ
-
ความประทับใจ
ประทับใจตรงที่คณะทันตแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล เป็นคณะที่มีความพร้อมในเรื่องการรักษาคนไข้ทั้งสถานที่ เครื่องมือ บุคลากร ตอนเข้ามาที่คณะฯ ครั้งแรก จำได้ว่าตื่นเต้นมาก นึกว่าหลงเข้ามาในโรงพยาบาล ไม่คิดว่าคณะฯจะใหญ่โตและสวยงามขนาดนี้
นอกจากนี้ยังมีการเรียนการสอนที่เข้มข้นจากอาจารย์ทุกท่าน ที่ตั้งใจถ่ายทอดความรู้ให้ลูกศิษย์จริงๆ ถือว่าการได้มาเรียนที่นี่ ได้เรียนรู้ในหลายๆอย่างมาก กว่าจะได้จบออกไปใช้ชีวิตทันตแพทย์จริงๆ อีกด้านที่ประทับใจคือการช่วยเหลือกันของเพื่อนๆค่ะ อาชีพทันตแพทย์เหมือนจะเป็นอาชีพที่ทำงานคนเดียวได้ แต่จริงๆแล้วกว่าจะรักษาคนไข้หนึ่งคนได้สำเร็จต้องมีผู้ช่วยทันตแพทย์ ช่างทันตกรรม ดังนั้นตอนที่เราเป็น นศ.ทพ.เพื่อนๆเราจะเป็นทั้งผู้ช่วยทันตแพทย์ ช่างทันตกรรมให้เรา คอยช่วยเหลือเรา แนะนำสอนเรา รวมทั้งยังคอยปลอบใจ เป็นกำลังใจให้กันเวลาที่เรารู้สึกท้อด้วยค่ะ เรียกได้ว่ามิตรภาพจากเพื่อนสำคัญมากๆเลยค่ะ ในการเป็นนักศึกษาทันตแพทย์
-
แบ่งเวลาอย่างไรบ้าง?
การเรียนทันตแพทย์จะแบ่งเป็น 2 ช่วง ค่ะ ถ้าเป็นช่วงปีที่ 1-3 จะเน้นเกี่ยวการเรียนเลคเชอร์ ต้องอ่านหนังสือทบทวนความรู้ พร้อมทั้งมีการทำ แลปต่างๆ เพื่อเพิ่มทักษะการเป็นทันตแพทย์ เช่นฝึกการแต่งขี้ผึ้ง การฝึกควบคุมมือเวลากรอฟัน ดังนั้นก็จะต้องแบ่งเวลาให้กับการอ่านหนังสือ การทำงาน แลป และการพักผ่อนให้สมดุลกันจะได้ไม่เครียดเกินไปค่ะ ส่วนช่วงปีที่ 4-6 จะเป็นช่วงที่ลงคลินิกทำคนไข้จริงๆแล้ว ก่อนลงคลินิกก็ต้องเตรียมความรู้ ให้พร้อมหมั่นทบทวนความรู้ ที่จะใช้ในคลินิก พอหลังจากเลิกเรียน เลิกคลินิกแล้วหรือว่าวันหยุด ก็จะใช้เวลาพักผ่อนให้เต็มที่ ดูหนัง ทานข้าว ออกไปเที่ยวไปทำบุญ หากิจกรรมอื่นทำที่จะไม่ทำให้เอาเรื่องคลินิกเก็บมาคิด เหมือนหยุดพักเรื่องเรียนไว้ก่อน เติมพลังบวกให้ตัวเองก่อนจะได้ไม่ทำให้ตัวเองเครียด หรือกดดันเกินไปค่ะ เพราะยิ่งถ้าเราเครียดหรือกดดันตัวเองมากเกินไป การเรียนทันตแพทย์ก็จะยิ่งมีไม่ความสุขเลยค่ะ
-
วางแผนในอนาคตอย่างไรบ้าง?
วางแผนว่าจะออกไปใช้ทุนที่ต่างจังหวัด เพราะรู้สึกว่าตัวเองยังขาดประสบการณ์ในอาชีพทันตแพทย์อีกเยอะ มีประสบการณ์ ในการรักษาคนไข้ยังน้อยอยู่ อีกทั้งการออกไปใช้ทุน ได้รักษาคนไข้ที่หลากหลาย จะทำให้เรารู้ว่าเราถนัดหรือสนใจทันตแพทย์ในสาขาไหนอีกด้วย เพราะอาชีพทันตแพทย์
เป็นอาชีพที่ใช้ความรู้อย่างเดียวไม่พอ ต้องอาศัยการฝึกฝน ความชำนาญ รวมทั้งประสบการณ์ในการประกอบวิชาชีพด้วยค่ะ
วิชาชีพทันตแพทย์ เป็นวิชาชีพที่อาศัยทั้งความรู้และศิลปะค่ะ การทบทวนอ่านหนังสือ ท่องจำอย่างเดียวไม่เพียงพอ ต้องอาศัยการฝึกฝน การทำงานฝีมือควบคู่กันไปด้วย เพราะฉะนั้นการฝึกฝน พยายาม ถือเป็นสิ่ งสำคัญมากๆเลยค่ะในการเรียนทันตแพทย์ ก็ขอให้น้องทุกคนที่มุ่งมั่นตั้งใจอ่านหนังสือสอบเข้าเรียนทันตแพทย์ให้ได้นะคะ พี่เชื่อ ว่าไม่มีอะไรเกินความสามารถ ถ้าเรามุ่งมั่นตั้งใจแล้ว ความพยายามอยู่ที่ไหน ความสำเร็จอยู่ที่นั่นค่ะ