เว็บไซต์เก่า

MU DENT faculty of dentistry

หลักสูตรทันตแพทยศาสตรบัณฑิต

Doctor of Dental Surgery Program

หลักสูตรทันตแพทยศาสตรบัณฑิต
ได้รับการรับรองมาตรฐานคุณภาพการศึกษา

ตามเกณฑ์ AUN-QA ระดับอาเซียน

ตั้งแต่วันที่ 6 มีนาคม 2563

เป็นแห่งแรกในประเทศไทย

ข้อมูลหลักสูตร

 ภาษาไทย  :      หลักสูตรทันตแพทยศาสตรบัณฑิต

 ภาษาอังกฤษ  :  Doctor of Dental Surgery Program

ภาษาไทย 

ชื่อเต็ม       :      ทันตแพทยศาสตรบัณฑิต 

ชื่อย่อ        :      ท.บ.

ภาษาอังกฤษ 

ชื่อเต็ม       :      Doctor of Dental Surgery

ชื่อย่อ         :      D.D.S.

โครงสร้างหลักสูตร 

จัดการศึกษาตามประกาศกระทรวงศึกษาธิการ เรื่องเกณฑ์มาตรฐานหลักสูตรระดับปริญญาตรี พ.ศ. 2558 ปรากฏดังนี้

.  หมวดวิชาศึกษาทั่วไป                    30      หน่วยกิต

–  กลุ่มวิชามนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์                                10  หน่วยกิต

–  กลุ่มวิชาภาษา                                                                   12  หน่วยกิต

–  กลุ่มวิชาวิทยาศาสตร์และคณิตศาสตร์                                    8  หน่วยกิต

.  หมวดวิชาเฉพาะ                         199     หน่วยกิต

–  กลุ่มวิชาพื้นฐานวิชาชีพ                                   51  หน่วยกิต

– กลุ่มวิชาวิทยาศาสตร์และคณิตศาสตร์           14  หน่วยกิต

– กลุ่มวิชาวิทยาศาสตร์การแพทย์พื้นฐาน         37  หน่วยกิต

  • กลุ่มวิชาชีพ                            144  หน่วยกิต
  • กลุ่มวิชาเลือกทางวิชาชีพ            4  หน่วยกิต

.  หมวดวิชาเลือกเสรี                       6        หน่วยกิต

หลักสูตรระดับปริญญาตรี ระยะเวลาศึกษา 6 ปี ตามเกณฑ์มาตรฐานหลักสูตรระดับอุดมศึกษา พ.ศ.2552 และตามกรอบมาตรฐานคุณวุฒิระดับปริญญาตรี สาขาวิชาทันตแพทยศาสตร์ พ.ศ.2557

 หลักสูตรระดับปริญญาตรี ระยะเวลาศึกษา 6 ปี ตามเกณฑ์มาตรฐานหลักสูตรระดับอุดมศึกษา พ.ศ.2552 และตามกรอบมาตรฐานคุณวุฒิระดับปริญญาตรี สาขาวิชาทันตแพทยศาสตร์ พ.ศ.2557

ภาษาไทยและภาษาอังกฤษ

สำเร็จมัธยมศึกษาตอนปลายหรือเทียบเท่า มีคุณสมบัติทั่วไปและคุณสมบัติเฉพาะ ดังนี้

(1)  ตามระเบียบการสอบคัดเลือกเข้าสถาบันอุดมศึกษา สำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา (เช่น ระบบ TCAS ในปัจจุบัน) และ/หรือ

(2)  ตามระเบียบโครงการพิเศษของกลุ่มสถาบันแพทยศาสตร์แห่งประเทศไทย (กสพท.) หรือระเบียบ การสอบคัดเลือกที่มหาวิทยาลัยมหิดลหรือคณะทันตแพทยศาสตร์ดำเนินการสอบคัดเลือก

(3)  คุณสมบัติเฉพาะให้เป็นไปตามมติขององค์กรผู้บริหารคณะทันตแพทยศาสตร์แห่งประเทศไทย (อ.บ.ท.ท.)

ใช้เวลาในการศึกษาตามหลักสูตร 6 ปีการศึกษา  โดยแบ่งเป็นการศึกษาระดับเตรียมทันตแพทย์ 1 ปี ระดับพรีคลินิก 2 ปี และระดับคลินิก 3 ปี และให้ศึกษาตลอดหลักสูตรไม่เกิน 12 ปีการศึกษา

  รับเฉพาะนักศึกษาสัญชาติไทยที่มีความรู้ภาษาอังกฤษในระดับดี เป็นไปตามระเบียบการสอบคัดเลือกบุคคลเข้าศึกษาในสถาบันอุดมศึกษาของสำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา กระทรวงศึกษาธิการ และ/หรือตามที่คณะทันตแพทยศาสตร์ได้กำหนดเพิ่มเติม

1) ทันตแพทย์ทำงานในหน่วยงานของรัฐบาล รัฐวิสาหกิจ เอกชน หรือเปิดคลินิกอิสระ

2) ผู้ช่วยอาจารย์ในระดับมหาวิทยาลัย อาจารย์ในระดับวิทยาลัย

3) นักวิชาการทางทันตสาธารณสุข

4) สามารถศึกษาต่อเป็นทันตแพทย์เฉพาะทางในระดับบัณฑิตศึกษาและระดับวุฒิบัตรในสาขาวิชาต่าง ๆ  และศึกษาต่อในระดับบัณฑิตศึกษาในสาขาวิชาอื่น

1)  ศูนย์ศาลายา มหาวิทยาลัยมหิดล

2)  คณะทันตแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล

3)  โรงพยาบาลทันตกรรมมหาจักรีสิรินธร มหาวิทยาลัยมหิดล

4)  ปฏิบัติงานเพื่อเพิ่มพูนประสบการณ์วิชาชีพใน โรงพยาบาลชุมชนสังกัดกระทรวงสาธารณสุข และหน่วยงานอื่นๆตามที่คณะฯกำหนด

บัณฑิตทันตแพทยศาสตร์ที่สำเร็จการศึกษาตามหลักสูตรนี้มีความรู้ความสามารถในวิชาชีพ มีคุณธรรม จริยธรรม ใฝ่เรียนรู้ เพื่อคุณภาพชีวิตของประชาชน


มีการส่งเสริมการเรียนการสอนโดยเน้นการเรียนรู้ของผู้เรียนเป็นสำคัญ (Learning centred educatation) เพื่อผลสัมฤทธิ์ของผู้เรียน (Outcome-based education) ให้ผู้เรียนได้พัฒนาความรู้ ความสามารถ และสร้างความรู้ใหม่ด้วยตนเอง (Constructivism) รวมทั้งส่งเสริมให้นำศักยภาพที่มีอยู่มาใช้ให้เกิดประโยชน์ต่อประชาชนและสังคมได้อย่างเต็มที่

เพื่อผลิตทันตแพทยศาสตรบัณฑิต ที่มีคุณลักษณะและมีความรู้ ความสามารถ ต่อไปนี้

(1) มีคุณธรรม จริยธรรม และจรรยาบรรณวิชาชีพ (Affective Domain)
(2) มีความรอบรู้ และทักษะในการจัดการดูแลรักษาทางทันตกรรมแบบองค์รวม สามารถส่งเสริมสุขภาพและป้องกันโรคช่องปากทั้งระดับบุคคล ครอบครัว และชุมชน (Cognitive / Psychomotor Domains)
(3) สามารถนำความรู้ทางวิทยาศาสตร์พื้นฐาน วิทยาศาสตร์ชีวการแพทย์ และเทคโนโลยีสารสนเทศ และหลักการของกระบวนการวิจัยมาประยุกต์ใช้ในงานทันตกรรม (Cognitive / Psychomotor Domains)
(4) สามารถพัฒนาตนเองเชิงวิชาชีพและเชิงปัจเจกบุคคล มีความใฝ่รู้ ปรับตัวให้พร้อมรับกับเหตุการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้น และมีความรับผิดชอบต่อสังคม (Affective / Interpersonal / Collaboration Domains)
(5) สามารถสื่อสารและทำงานร่วมกับผู้อื่นตามบทบาทที่ได้รับมอบหมาย (Interpersonal / Communication Domains)

ผลลัพธ์การเรียนรู้ระดับหลักสูตร (Program-Level Learning Outcomes, PLOs) และผลลัพธ์การเรียนรู้ย่อย (Sub Program-level Learning Outcomes, SubPLOs)

PLOs SubPLOs
PLO1 ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ ทักษะการจัดการ การวิจัย และการเรียนรู้ตลอดชีวิต เพื่อพัฒนาตนเองอย่างต่อเนื่อง ตามหลักการการจัดการเรียนรู้ในศตวรรษที่ ๒๑ ๑.๑  ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อสืบค้นข้อมูลจากแหล่งต่าง ๆ ได้ถูกต้องและเหมาะสมกับปัญหาที่กำหนด

๑.๒  วิเคราะห์ข้อมูลจากแหล่งต่าง ๆ โดยใช้หลักฐานเชิง-ประจักษ์

๑.๓  เลือกวิธีการเรียนรู้ได้เหมาะสมกับตนเองในสถานการณ์ต่าง ๆ

๑.๔  ใช้ทักษะการแก้ปัญหา (Problem solving) ในการแก้ไขปัญหาที่กำหนดขึ้นได้อย่างเหมาะสมและมีประสิทธิภาพ

๑.๕  ประเมินการเปลี่ยนแปลงของสภาพแวดล้อมทางสังคม วัฒนธรรม และเศรษฐกิจ เพื่อปรับตัวให้เหมาะสมกับการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น

๑.๖  ประยุกต์ทักษะการวิจัยเพื่อพัฒนาความรู้อย่างต่อเนื่อง

PLO2 วินิจฉัยโรคช่องปาก ใบหน้า ขากรรไกรได้อย่างถูกต้อง โดยอาศัยข้อมูลที่รวบรวมได้จากผู้ป่วย ตามมาตรฐานวิชาชีพทางทันตกรรม ๒.๑ ซักประวัติจากผู้ป่วยและญาติหรือผู้ดูแล เพื่อให้ได้ข้อมูลที่เพียงพอต่อการวินิจฉัยโรคและเหมาะสมกับปัญหาของผู้ป่วย

๒.๒ ตรวจผู้ป่วยในสถานการณ์ต่าง ๆ อย่างเหมาะสมกับปัญหาของผู้ป่วย โดยใช้เครื่องมือพื้นฐานทางทันตกรรม

๒.๓ เลือกการตรวจทางห้องปฏิบัติการ การตรวจทางภาพรังสี และการตรวจอื่น ๆ โดยคำนึงถึงความคุ้มค่าและความเหมาะสมกับปัญหาของผู้ป่วย พร้อมทั้งแปลผลจากข้อมูลดังกล่าวได้อย่างถูกต้อง

๒.๔ ประเมินสภาวะผู้ป่วยทั้งทางการแพทย์และทางทันตกรรมเพื่อประกอบการวินิจฉัยโรคโดยใช้หลักฐานเชิงประจักษ์

๒.๕ วินิจฉัยเบื้องต้นและพิเคราะห์แยกโรคทางทันตกรรมเพื่อการวินิจฉัยโรคที่ถูกต้อง

PLO3 วางแผนการรักษาทางทันตกรรมแบบองค์รวมร่วมกับผู้ป่วย และ/หรือกลุ่มสหสาขาวิชาชีพ คำนึงถึงประโยชน์และความปลอดภัยของผู้ป่วยเป็นสำคัญ ๓.๑ ประเมินสภาวะโรคช่องปากและใบหน้าขากรรไกรเพื่อวางแผนการรักษาอย่างรอบด้าน

๓.๒ วางแผนการรักษาทางทันตกรรมให้ถูกต้องเหมาะสมกับปัญหาของผู้ป่วยตามมาตรฐานวิชาชีพ โดยประยุกต์ใช้การดูแลผู้ป่วยแบบองค์รวม (Holistic approach)

๓.๓ ตัดสินใจส่งต่อผู้ป่วยให้แก่ทันตแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญ หากงานทันตกรรมอยู่เหนือระดับสมรรถนะ ของตน

๓.๔ ใช้ความรู้ทางทันตกรรมและศาสตร์ที่เกี่ยวข้องเพื่อให้ความคิดเห็นเชิงวิชาการเมื่อได้รับการขอคำปรึกษาจากผู้ร่วมงาน

PLO4 จัดการและให้การดูแลรักษาทาง          ทันตกรรมแบบองค์รวม ตามมาตรฐานวิชาชีพและจรรยาบรรณแห่งวิชาชีพ ทันตกรรม ๔.๑ จัดการสิ่งแวดล้อมในการทำงานให้มีความปลอดภัยและควบคุมการแพร่กระจายของเชื้อในบริเวณที่ทำหัตถการ

๔.๒ ใช้ยาได้อย่างสมเหตุผลและเหมาะสมกับภาวะของผู้ป่วย รวมทั้งจัดการต่อผลข้างเคียงที่เกิดจากการใช้ยา

๔.๓ ทำหัตถการทางทันตกรรมเพื่อจัดการโรคในช่องปากและใบหน้าขากรรไกรในระดับที่เหมาะสมตามเกณฑ์มาตรฐานผู้ประกอบวิชาชีพทันตกรรม** และมุ่งเน้นความปลอดภัยของผู้ป่วยเป็นสำคัญ

๔.๔ ประเมินผลการรักษาตามแนวทางทันตกรรมแบบองค์รวมเพื่อสะท้อนคุณภาพการรักษา นำไปสู่การปรับปรุงการรักษา

๔.๕ จัดการภาวะแทรกซ้อนทางทันตกรรมและภาวะฉุกเฉินทางการแพทย์ที่พบบ่อยในระหว่างและหลังการรักษาทางทันตกรรม

๔.๖ จัดการพฤติกรรม รวมถึงภาวะความเจ็บปวด ความเครียด และความวิตกกังวลของผู้ป่วยทั้งเด็กและผู้ใหญ่ด้วยการใช้ยาและไม่ใช้ยา

PLO5 ส่งเสริมสุขภาพและป้องกันโรค             ช่องปาก ทั้งระดับบุคคล ครอบครัว

        และชุมชน โดยมุ่งเน้นถึงสาเหตุและปัจจัยที่เกี่ยวข้องตามหลักสุขภาพ         องค์รวม

๕.๑ ดูแลสุขภาพช่องปากของประชาชนในระดับบุคคลโดยผ่านแนวคิดการดูแลสุขภาพแบบองค์รวมได้

๕.๒ ให้ทันตสุขศึกษาแก่ประชาชนในระดับบุคคล ครอบครัวหรือชุมชน โดยผ่านแนวคิดการสร้างเสริมสุขภาพ
การป้องกันโรคและบริหารจัดการทางสาธารณสุขร่วมกับสหสาขาวิชาชีพ

๕.๓ ประเมินสถานการณ์สุขภาพช่องปาก ความแตกต่างทางวัฒนธรรมและสิ่งแวดล้อม และความสำคัญของระบบบริการสุขภาพของประเทศไทยร่วมกับสหสาขาวิชาชีพ

PLO6 สื่อสารกับผู้ป่วยและญาติหรือผู้ดูแล กลุ่มสหสาขาวิชาชีพ และสาธารณชนได้อย่างถูกต้อง ชัดเจน ตรงตามวัตถุประสงค์ ๖.๑ สื่อสารกับผู้ป่วยและผู้ดูแล ปรึกษาและให้คำแนะนำต่อกลุ่มสหสาขาวิชาชีพ รวมทั้งให้ข้อมูลและความรู้แก่สาธารณชนได้อย่างเหมาะสม

๖.๒ บันทึกเวชระเบียนได้อย่างถูกต้องตามมาตรฐานสากล

๖.๓ อธิบายและแนะนำสภาพโรค การรักษา การป้องกัน และการดูแลกับผู้ป่วยและกลุ่มสหสาขาวิชาชีพได้อย่างเหมาะสม

๖.๔ สื่อสารกับผู้อื่นโดยใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมดิจิทัลอย่างมีจริยธรรม