1. ฟันด้านนอก
– วางขนแปรงเข้าหาฟันให้ปลายขนแปรงอยู่บริเวณขอบเหงือก
โดยเอียงทำมุม 45 องศา กับตัวฟันและขนานกับแนวฟัน
– ขยับขนแปรงไปมาในแนวหน้าหลัง เป็นระยะสั้นๆ ไม่เกินครึ่งซีฟัน
– ปัดขนแปรงขึ้นในฟันล่างและปัดลงสำหรับฟันบน
– ในแต่ละตำแหน่งควรแปรงประมาณ 10 ครั้ง
2. ฟันด้านใน
– วางขนแปรงบริเวณขอบเหงือกและแปรงฟัน
เช่นเดียวกับการแปรงฟันด้านนอก
3. ฟันด้านบดเคี้ยว
– วางขนแปรงบริเวณด้านบดเคี้ยวของฟัน
โดยวางแปรงให้หน้าตัดขนแปรงอยู่ด้านบนของฟันบดเคี้ยว
ถูไปมาในแนวหน้าหลังทั้งฟันบนและฟันล่าง
4. ฟันหน้าด้านใน
– วางแปรงสีฟันในแนวตั้ง
ใช้ปลายแปรงสีฟันแปรงด้านหลังของฟันหน้าแต่ละซี่
โดยขยับและปัดปลายขนแปรงมาทางปลายขอบฟัน
ทั้งฟันหน้าบนและฟันหน้าล่าง
5. แปรงลิ้น
– อย่าลืมแปรงที่ลิ้นเพื่อกำจัดคราบจุลินทรีย์และป้องกันไม่ให้เกิดกลิ่นปาก
โดยการปัดขนแปรงสีฟัน จากโคนลิ้นมาทางปลายลิ้นประมาณ 10 ครั้ง
ใช้ไหมขัดฟันอย่างไรให้ฟันสะอาดยิ่งขึ้น ?
1. ดึงไหมขัดฟันออกมา ความยาวประมาณ 18 นิ้ว ให้พันที่นิ้วกลาง ทั้ง 2 ข้าง ดึงให้ไหมขัดฟันตึง
2. ใช้นิ้วหัวแม่มือและนิ้วชี้จับไหมขัดฟันแล้วค่อยๆ เลื่อนเส้นไหมลงระหว่างซอกฟัน
3. โอบไหมขัดฟันรอบตัวฟันแต่ละซี่และเลื่อนเส้นไหมลงใต้เหงือกแล้วเคลื่อนไหมขึ้นไปทางปลายฟัน ทำซ้ำ 4 – 5 ครั้ง
แปรงสีฟัน ยาสีฟัน
– ควรเลือกใช้แปรงสีฟันที่มีขนแปรงอ่อนนุ่ม
– เลือกยาสีฟันที่มีส่วนผสมของฟลูออไรด์
– แปรงฟันอย่างน้อยวันละ 2 ครั้ง ตอนเช้าและก่อนนอน
– การแปรงฟันควรใช้เวลาอย่างน้อยครั้งละ 2 นาที
– ควรเปลี่ยนแปรงสีฟันทุก 3 เดือน
น้ำยาบ้วนปากจำเป็นหรือไม่ ?
สำหรับการดูแลสุขภาพช่องปากนั้น
นอกเหนือจากการทำความสะอาดเศษอาหารที่ตกค้าง
อยู่ในช่องปากโดยการใช้ไหมขัดฟันและการแปรงฟันที่ถูกวิธีแล้ว
ยังควรมีการเสริมสร้างความแข็งแรงของฟันโดยการ
ใช้น้ำยาบ้วนปากที่มีส่วนผสมของฟลูออไรด์
ก็จะสามารถลดโอกาสในการเกิดปัญหาต่างๆ ของสุขภาพช่องปากได้